นักวิเคราะห์ชี้ 'เฟด' กรุยทาง ดัน 'แบงก์ชาติเอเชีย' ลดดอกเบี้ยตาม

นักวิเคราะห์ชี้ 'เฟด' ลดดอกเบี้ย ช่วยกรุยทางแบงก์ชาติในเอเชียจ่อลดดอกเบี้ยตามอีก หลังสงครามการค้ายังกดดันเศรษฐกิจ
CNBC รายงานว่า ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วเอเชียอาจสบช่องการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลง 0.25% เมื่อวันพุธ และส่งสัญญาณจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต
ทั้งนี้ เฟดลดดอกเบี้ยกู้ยืมข้ามคืนมาอยู่ที่ 4.0 - 4.25% โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าเป็นการลดดอกเบี้ยเพื่อบริหารความเสี่ยง มากกว่าจะมุ่งเน้นการพยุงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟด (Dot Plot) บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และอีก 1 ครั้งในปีหน้า
เป่ยเฉียน หลิว นักเศรษฐศาสตร์เอเชียจากฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของเฟดอาจทำให้ "ช่องว่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐกับพันธบัตรเอเชียแคบลง" ซึ่งจะช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องค่าเงิน และทำให้เศรษฐกิจเอเชียบางแห่งโดยเฉพาะประเทศที่เผชิญกับแรงกดดันภายในประเทศหนักหน่วงขึ้น มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
"จุดยืนด้านนโยบายโดยรวมของภูมิภาคนี้น่าจะผ่อนคลายมากขึ้น" หลิวกล่าวถึงภาพรวมนโยบายการเงินของเอเชีย ซึ่งภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านการค้าและแรงกดดันด้านค่าเงิน
แบงก์ชาติหลายที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชียได้ลดดอกเบี้ยล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เพื่อรับมือกับผลกระทบสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ที่ลดดอกเบี้ยลงไปอยู่ระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 3 ปี เมื่อเดือนพ.ค. ด้านธนาคารกลางอินเดียหั่นดอกเบี้ยไป 0.5% เมื่อเดือนมิ.ย. และธนาคารกลางออสเตรเลียลดดอกเบี้ยลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี เมื่อเดือนส.ค.
อย่างไรก็ตาม สภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างออกไปของแต่ละประเทศจะยังเป็นตัวแปรของการดำเนินนโยบายการเงินหลังจากนี้ เช่น ภาวะเงินเฟ้อภายในประเทศและผลกระทบที่ยังคงอยู่จากการส่งออกที่ถูกเร่งรัดก่อนมาตรการภาษีของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้
เศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาส 2 โดยเกาหลีใต้โซลและสิงคโปร์สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในทางเทคนิคได้อย่างหวุดหวิด
สำหรับธนาคารกลางในเอเชียที่มีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ เบ็ตตี้ หวัง นักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics คาดว่าจะรวมถึง "เกาหลีใต้" และ "อินเดีย" ที่มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยต่อในช่วงไตรมาสที่ 4 โดยชี้ว่า ความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงนั้นถูกกล่าวเกินจริงไปมาก และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะช่วยเปิดช่องให้เอเชียลดดอกเบี้ยได้เพิ่มเติมอีกในช่วงปลายปีนี้
ด้านชี โหล นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ BNP Paribas Asset Management มองว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงในเอเชียส่วนใหญ่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้แบงก์ชาติมีช่องในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้อีก แต่อาจจะยกเว้น "อินเดีย" เพราะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศมากกว่าการส่งออก
ยกเว้น 'จีน-ญี่ปุ่น' ไม่เข้าพวก
แม้หลายประเทศอาจจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก แต่สำหรับสองเขตเศรษฐกิจหลักในเอเชียอย่าง "ญี่ปุ่น" และ "จีน" อาจไม่เข้าพวก โดยสำหรับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) นั้น มีวาระสำคัญคือการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อทำให้นโยบายการเงินของญี่ปุ่นกลับสู่ภาวะปกติหลังจากที่ใช้นโยบายดอกเบี้ยตทิดลบมาหลายปีก่อนหน้านี้ แต่ล่าสุดที่ประชุม BOJ วันนี้ (19 ก.ย.) เพิ่งมีมติคงอัตราดอกเบี้ย
ส่วนทางด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 1.4% เมื่อวันพฤหัสบดี โดยจีนยังคงต้องคำนึงถึงการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับความเสี่ยงที่อาจกระตุ้นให้เกิดฟองสบู่ตลาดหุ้นซึ่งอาจซ้ำรอยวิกฤติปี 2015
ที่มา: CNBC






