'ดอลลาร์' อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 4 ปี รอรับ 'เฟด' ลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี

'ดอลลาร์' อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 4 ปี รอรับ 'เฟด' ลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ทั่วโลก รอรับผลการประชุม FOMC ที่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 9 เดือน และลดมากกว่า 0.25%

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรในวันนี้ (17 ก.ย.68) อยู่ที่ 1.1858 ดอลลาร์ต่อยูโร นอกจากนี้ยังอ่อนค่าต่ำสุดในรอบสองเดือนครึ่งเมื่อเทียบเงินปอนด์ อยู่ที่ 1.3649 ดอลลาร์ต่อปอนด์ และยังอ่อนค่าลงในรอบหนึ่งเดือนเมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น อยู่ที่ 146.22 เยนต่อดอลลาร์

การอ่อนค่าลงแรงของเงินดอลลาร์มีขึ้นในขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาในสหรัฐ จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกของปี 2568 ซึ่งตลาดเชื่อว่าจะมีการลดดอกเบี้ยไม่น้อยกว่า 0.25% และจะรอดูสัญญาณจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ สำหรับทิศทางดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งของปีนี้ ในเดือนต.ค. และ ธ.ค.

โฟกัสของตลาดยังอยู่ที่ว่าในการประชุมรอบนี้ FOMC จะพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านั้นที่ 0.50% หรือไม่ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันอย่างต่อเนื่องให้เฟดลดดอกเบี้ยมากขึ้น และล่าสุดได้ส่ง “สตีเฟน มิแรน” ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้เข้าร่วม “คณะกรรมการเฟด” ซึ่งเป็นคณะที่ร่วมตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่รอบการประชุมนี้ด้วย หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติรับรองตำแหน่งของเขาเมื่อค่ำวันจันทร์

ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร ING กล่าวว่า ผลกระทบที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญต่อตลาด จะต้องมาจากการลดดอกเบี้ยแบบเซอร์ไพรส์ที่ 0.50% หรือความเห็นเรื่องทิศทางนโยบายการเงินของพาวเวลล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางสายพิราบ (ผ่อนปรน) หรือสายเหยี่ยว (ตึงตัว) อย่างชัดเจน

ด้านโทนี่ ไซคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของบริษัท IG คาดว่าพาวเวลล์จะให้ทิศทางในเชิงผ่อนปรน โดยเน้นย้ำถึงความเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มขึ้นต่อตลาดแรงงาน และแสดงความเต็มใจที่จะลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากความเสี่ยงเหล่านี้ยังคงอยู่

“ด้วยเหตุนี้เราจึงเชื่อว่า ‘การซื้อตามข่าวลือ และขายตามข้อเท็จจริง’ ใดๆ นั้นจะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้น เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยตามมาอีก 0.25% ในเดือนตุลาคม และธันวาคม” ไซคามอร์ กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคซื้อสินค้า และออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกันมากขึ้น แต่ตลาดแรงงานที่อ่อนแอ และราคาสินค้าที่สูงขึ้นเนื่องจากภาษีศุลกากรก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านลบต่อการใช้จ่ายที่ยังคงแข็งแกร่ง

ทางด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์ของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Dollar Spot Index) ปรับตัวลดลงเป็นวันที่สาม โดยปรับตัวลง 0.1% ในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

“ดูเหมือนว่าตลาดกำลังประเมินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มขึ้นทุกวัน” จอห์น ดอยล์ จาก Monex กล่าว “กรณีฐานใหม่คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 0.75% ภายในสิ้นปีนี้”

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์