หุ้นเกาหลีใต้ Kospi พุ่งทุบสถิติใหม่ รับยกเลิก 'แผนลดเพดานภาษีขายหุ้น'

เกาหลีใต้ 'ยกเลิก' แผนลดเกณฑ์เพดาน Capital Gains Tax จาก 5 พันล้านวอน ลง 1 พันล้านวอน หลังเจอแรงต้านหนักว่าเป็นอุปสรรคต่อนักลงทุนรายย่อย ดันดัชนี Kospi ทำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศ "ยกเลิก" แผนการลดเกณฑ์ภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gain Tax) สำหรับการลงทุนในหุ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ครั้งแรกของประธานาธิบดีอี แจ มยอง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเสนอจะลดเกณฑ์ Capital Gain Tax จากเดิมที่ 5 พันล้านวอน (ราว 114 ล้านบาท) ลงมาเหลือ 1 พันล้านวอน (ราว 22.8 ล้านบาท) ทำให้เผชิญเสียงต้านอย่างหนักจากบรรดาฐานเสียงหลักของอี แจ มยอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย
ข้อเสนอนี้ยังทำให้เกิดคำถามต่อความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการฟื้นฟูตลาดหุ้น และก่อให้เกิดแรงเทขายหนักในเดือนส.ค. ทำให้มูลค่าตลาดหายไปหลายพันล้านดอลลาร์
ข่าวการยกเลิกข้อเสนอนี้ลงในที่สุด ทำให้วันนี้ (15 ก.ย. 68) ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ไปแตะระดับ "สูงสุดเป็นประวัติการณ์" ระหว่างการซื้อขายเมื่อช่วงเช้า ต่อเนื่องจากที่บวกได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมื่อตลาดรับรู้ข่าวล่วงหน้า ตลอดทั้งปีนี้ดัชนี Kospi ปรับตัวบวกไปแล้วถึง 42% จากแรงหนุนการปฏิรูปบริษัทเอกชนและการเติบโตของ AI ทั่วโลก นับเป็นหนึ่งในดัชนีที่มีผลงานดีที่สุดในโลก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้เสนอแผนดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม "เพิ่มรายได้และชดเชยแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากภาษีศุลกากรสหรัฐที่สูงขึ้น" ทว่าต้องยกเลิกในเวลาต่อมาหลังเผชิญเสียงวิจารณ์เตือนว่า แผนการนี้จะบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบั่นทอนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีผลประกอบการดีที่สุดในโลกในปีนี้
“การกลับลำเรื่องภาษีจากการขายหุ้นสะท้อนให้เห็นถึงเรื่อง 'ความคงเส้นคงวาของนโยบาย' มันเผยให้เห็นข้อบกพร่องที่แม้จะมุ่งไปยังผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ก็ทำให้นักลงทุนรายย่อยกังวลเรื่องการเทขายครั้งใหญ่ด้วย” ฮโยซอง ควอน นักเศรษฐศาสตร์จาก Bloomberg Economics กล่าว “การปฏิรูปในอนาคตต้องมีความชัดเจนและไม่มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อหลีกเลี่ยงการทำพลาดซ้ำรอยในอดีต”
เป็นที่คาดกันว่าปธน.อี แจ มยอง ซึ่งหาเสียงโดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จะเสนอมาตรการทางเลือกอื่นแทนในการหารายได้เข้ารัฐ พร้อมกับให้ความสำคัญกับนโยบายที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบการเงิน





