"ชนินทธ์ " DUSIT สลายปมครอบครัวรับจบด้วยดี ปี 69 สร้างสถิติกำไรพุ่งรับโอน 1.6 หมื่นล้านล้างขาดทุนสะสม

ชนินทธ์ DUSIT รับจบปัญหาภายในครอบครัวไปได้ด้วยดี รอประชุมผู้ถือหุ้น 26 ก.ย.68 นี้ ย้ำยังทำงานร่วมกลุ่มเซ็นทรัลได้ ฝาก "ศุภจี" ทิ้งทวนซีอีโอดุสิต รายได้ปี 69 โตแรงรับรู้ยอดโอนเรสซิเดนท์ 1.6 หมื่นล้าน ล้างขาดทุนสะสมทันที
งานแถลงข่าวกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT “ทิศทางการบริหารงานของดุสิตธานี : จากความสำเร็จในปัจจุบัน สู่การสร้างสรรค์บทใหม่” ได้รับความสนใจจากนักลงทุน และประชาชน จากประเด็นความขัดแย้งภายในครอบครัวที่ส่งผลกระทบทำให้ "ชนินทธ์ โทณวณิก" รักษาการประธานกรรมการ ออกมายอมรับปมร้าวในครอบครัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากโครงการ "ดุสิต เซ็นทรัล ปาร์ค"
จากบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้เสนอวาระถอดถอน "ชนินทธ์ โทณวณิก" ออกจากตำแหน่งกรรมการ ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 ก.ย.2568 นี้
ชนินทธ์ ได้กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวในงานเพียงสั้นๆ “จบลงได้ดีไม่ต้องเป็นห่วง พูดคุยแก้ไขปัญหาทุกวัน เพราะทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างออกมาดีให้เชื่อมั่นประเด็นดุสิตธานีจะจบลงด้วยดี รวมทั้งยังทำงานร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลได้”
ทาง DUSIT ได้แต่งตั้ง นายชนินทธ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแทน และแต่งตั้ง นายภควัต โกวิทวัฒนพงศ์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ นายสมประสงค์ บุญยะชัย ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระแทน นางนวลพรรณ ล่ำซำ ที่ลาออกจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ "ศุภจี สุธรรมพันธุ์" ซึ่งได้ยื่นลาออกจากตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DUSIT รวมทั้งลาออกจากการเป็นกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย KBANK และ กรรมการอิสระ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT แล้วนั้นได้ร่วมแถลงในนาม DUSIT ก่อนไปรับตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์
"จากที่เข้ามารับตำแหน่งช่วง 9 ปี วางไว้ 3 ช่วง ซึ่ง 3 ปีแรกวางพื้นฐาน อีก 3 ปี หารายได้ใหม่ และ 3 ปีสุดท้ายนิวเช็ปเตอร์ แม้โควิดทำให้การเทคออฟได้ช้า แต่สามารถทำรายได้นิวไฮ ปี 2567 แตะหมื่นล้านบาท และน่าจะรักษารายได้หมื่นล้านบาทต่อไป"
โดยปี 2569 มีการรับรู้รายได้ก้อนใหญ่จากการโอนโครงการ Dusit Residences เป็นพื้นที่ใหญ่สุดซึ่งสามารถขายไปได้แล้ว 94% มูลค่า 16,000 ล้านบาท จาก 17,000 ล้านบาท แบ่งรับรู้รายได้ปี 2568 ประมาณ 20% และปี 2569 อีก 80%
"รายได้ปี 69 จะเห็นการเติบโตแรง มีรับรู้รายได้ก้อนใหญ่เข้ามา ซึ่งสามารถลดภาระดอกเบี้ย ล้างขาดทุนสะสมได้หมดมูลค่า 1,200 ล้านบาท และจากนี้จะรักษารายได้เฉลี่ยที่ 8,000-9,000 ล้านบาทได้ทุกปี"
ตามโครงสร้างรายได้ 5 กลุ่ม โรงแรม - อาหาร - อสังหาฯ - บริการ และการศึกษา ทำให้รายได้ DUSIT เกิดความสมดุลไม่ผันผวนเหมือนในอดีต แม้จะขาดทุนช่วงผ่านมาเป็นเรื่องปกติเพราะส่วนทุนเท่าเดิม 850 ล้านบาท และใช้เงินกู้ในการลงทุน แต่ช่วงยากลำบากได้ผ่านพ้นไปแล้ว คาดว่าจากนี้ DUSIT สร้างปรากฏการณ์ใหม่เกิดขึ้น
"ศุภจี" ระบุถึงการเข้ารับตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ เรื่องท้าทายพอนายกฯทาบทามเข้าทีมเศรษฐกิจ ดูแลกระทรวงพาณิชย์ ไม่คาดว่าได้รับโอกาส
ด้วยไทยเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมาหลากหลาย ด้านมหภาค องค์กรข้ามชาติ ธุรกิจอินเตอร์เนชั่นแนล สามารถนำมาใช้ทำงานเพื่อผลักดันตลาดต่างประเทศผลักดันเศรษฐกิจในไทย
โดยจะหวังพึ่งลดค่าครองชีพอย่างเดียวไม่พอจะต้องสร้างรายได้ประกอบกันไปด้วย จึงมองว่าเปิดตลาดต่างประเทศ หาศักยภาพตลาดในประเทศไปพร้อมกัน
ที่สำคัญด้วยระยะเวลา 7-9 เดือนตัดสินใจง่าย เพราะทำงานต้องให้เกิดผล และวางรากฐานเพื่อเลือกตั้ง แม้ไม่รู้จักข้าราชการแต่การทำงานกับคนที่ต้องร่วมแรงร่วมใจ ตั้งใจทำงานไปด้วยกันทำงานที่ถนัด
"ความตั้งใจส่วนตัวคนเราไม่ต้องรู้ 100% ถึงทำ แต่ทำให้ 100% เพื่อเศรษฐกิจแข็งแรงเพื่อให้ฟื้นได้ อย่าถามทำอะไรก่อนยังต้องรอโปรดเกล้าฯ และรมว.อื่น และนายกฯ "
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







