หุ้นไทย (11 ก.ย.) ปิดบวก 9.98 จุด ความคืบหน้า 'ครม.' หนุน

หุ้นไทย (11 ก.ย.) ปิดบวก 9.98 จุด ความคืบหน้า 'ครม.' หนุน

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (11 ก.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,288.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.98 จุด หรือ 0.78% "นักวิเคราะห์" ชี้ เพราะการเมืองมีความชัดเจนและนักลงทุนคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

"ตลาดหุ้นไทย" วันนี้ (11 ก.ย.) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,288.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.98 จุด หรือ 0.78% "นักวิเคราะห์" ชี้ เพราะการเมืองมีความชัดเจนและนักลงทุนคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยดัชนีฯ เคลื่อนไหวในแนวโน้มผันผวนตลอดวัน ซึ่งทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,291.64 จุด จุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,279.48 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 46,736.68 ล้านบาท

หุ้นไทย (11 ก.ย.) ปิดบวก 9.98 จุด ความคืบหน้า 'ครม.' หนุน

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. PTT ราคาปิด 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 3.10% มูลค่าซื้อขาย 4,244.85 ล้านบาท

2. DELTA ราคาปิด 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 4.39% มูลค่าซื้อขาย 3,083.94 ล้านบาท

3. THAI ราคาปิด 14.50 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.03% มูลค่าซื้อขาย 1,587.82 ล้านบาท

4. CPALL ราคาปิด 47.75 บาท คงที่ 0.00 บาท หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 1,569.17 ล้านบาท

5. KBANK ราคาปิด 167.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.59% มูลค่าซื้อขาย 1,524.51 ล้านบาท

SET บวกทั้งวัน รับแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศที่ ‘เข้าที่เข้าทาง’

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในทิศทางบวกตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากความคืบหน้าทางการเมืองในประเทศที่เริ่มชัดเจนขึ้น ขณะที่กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลเข้าสู่ช่วงการฟอร์มทีมและเตรียมเปิดเผยโผคณะรัฐมนตรี (ครม) ซึ่งตลาดประเมินว่าน่าจะอยู่ในระดับที่ยอมรับได้

นอกจากนี้ สัญญาณมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเร่งออกมาในช่วงเวลาที่เหลือเพียง 4 เดือนของปี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) นายวิจิตร มองว่า ดัชนียังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยกำหนดแนวต้านสำคัญไว้ที่ระดับ 1,430 จุด ขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,275-1,403 จุด

“ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเมืองที่เข้าที่เข้าทางยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดต่อไป แม้จะต้องติดตามข้อมูลเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาไม่ค่อยดีในสัปดาห์ที่ผ่านมา”

ด้านคำแนะนำการลงทุน นายวิจิตรแนะนำให้นักลงทุนโฟกัสที่กลุ่มหุ้นที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกและไฟแนนซ์ที่น่าสนใจ สำหรับกลุ่มค้าปลีกแนะนำให้ดู CPAXT ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นการบริโภค ขณะที่กลุ่มเครื่องดื่มอย่าง ICHI ก็มีโอกาสได้รับแรงหนุนเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มโรงพยาบาลโดยเฉพาะ BDMS ก็น่าจับตามองจากผลงานไตรมาส 3 ที่คาดว่าจะน่าสนใจ โดยรวมแล้วยังคงมองบวกต่อตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น รองรับจากปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศที่เอื้อต่อการเติบโต