ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น เด้งรับความเสี่ยงคว่ำบาตร 'รัสเซีย' รอบใหม่

ราคาน้ำมันดิบบวกกว่า 1% วันนี้ รับความเสี่ยงที่รัสเซียอาจถูกตะวันตกคว่ำบาตร ขณะโอเปกพลัสเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต ต.ค. นี้ แต่ปริมาณน้อยลงจากเดิมมาก
ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวขึ้นกว่า 1% ในการซื้อขายวันนี้ (8 ก.ย. 68) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI บวก 75 เซนต์ หรือ 1.2% ไปอยู่ที่ 62.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ในขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 80 เซนต์ หรือ 1.2% ไปอยู่ที่ 66.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งพอช่วยชดเชยได้จากเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ราคาปรับตัวลงถึงกว่า 2% เนื่องจากตลาดคาดว่ามีแนวโน้มที่ชาติตะวันตกจะคว่ำบาตรัสเซียรอบใหม่ เพื่อตอบโต้การถล่มยูเครนรอบล่าสุด
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติเมื่อวันอาทิตย์ว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 137,000 บาร์เรล/วัน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ซึ่งควรเป็นข่าวดีที่กดราคาน้ำมันลง แต่เนื่องจากปริมาณที่จะผลิตเพิ่มนั้น "น้อยกว่ามาก" เมื่อเทียบกับหลายเดือนหน้า เช่น เดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผลิตเพิ่ม 555,000 บาร์เรล/วัน หรือในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผลิตเพิ่ม 411,000 บาร์เรล/วัน ทำให้ราคาน้ำมันโลกในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับสัญญาณความกังวลจากข่าวที่สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อธนาคารและบริษัทพลังงานของรัสเซียราว 6 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลงโทษรอบล่าสุดเพื่อกดดันประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ให้ยุติสงครามกับยูเครน
บลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า มาตรการครั้งนี้ซึ่งคาดว่าจะเป็นมาตรการครั้งที่ 19 ของอียูนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มสงครามเต็มรูปแบบในปี 2565 อาจทำให้อียูพุ่งเป้าไปที่ระบบการชำระเงินและบัตรเครดิตของรัสเซีย แพลตฟอร์มคริปโทเอ็กซ์เชนจ์ รวมถึงมาตรการจำกัดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้าน้ำมันของรัสเซีย
ทางอียูคาดว่าจะประสานงานมาตรการล่าสุดบางส่วนกับสหรัฐ โดยคณะผู้แทนอียูจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐ และหารือเกี่ยวกับการดำเนินการร่วมกัน ขณะที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กำลังเตรียมเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย แต่ยังต้องหารือร่วมกันกับทางยุโรปก่อน
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุในบันทึกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะมีอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีหน้า 2569 เนื่องจากการปรับเพิ่มระดับอุปทานในทวีปอเมริกามีน้ำหนักมากกว่าการปรับลดระดับอุปทานของรัสเซีย และบวกกับอุปสงค์ทั่วโลกที่แข็งแกร่งขึ้น
โกลด์แมน แซคส์ คงประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนท์และ WTI สำหรับปี 2568 ไว้เท่าเดิม และคาดการณ์ราคาเฉลี่ยในปี 2569 ไว้ที่ 56 ดอลลาร์/บาร์เรลสำหรับเบรนท์ และ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลสำหรับเวสต์เท็กซัส โดยระบุว่า "ความเสี่ยงต่อการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบของเราในปี 2568-2569 มีอยู่สองด้าน แต่มีแนวโน้มไปทางบวกขึ้นมากกว่าเล็กน้อย"







