‘ปิติ‘ เตือน หากธุรกิจไทยพอใจกับ “ดีล 19%” อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ

“ปิติ” เตือนดีลสหรัฐ กำลังทำให้โลกไม่เหมือนเดิม หากธุรกิจไทยพอใจกับดีล 19% นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบ แต่หากมองต้องคิดใหม่ทำให้ เหล่านี้อาจเป็น “โอกาส”
KEY
POINTS
- สหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนกติกาการค้าโลกจาก "การค้าเสรี" ไปสู่ "การค้าแบบมีเงื่อนไข" ซึ่งจะทำให้โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
- เตือนธุรกิจไทยว่าการพอใจกับดีลการ19% โดยไม่ปรับตัว อาจเป็น “จุดเริ่มต้นของจุดจบ”
- กติกาใหม่ของสหรัฐฯ ท้าทายห่วงโซ่การผลิตในอาเซียน และอาจทำให้สินค้าจากไทยเสียเปรียบในการส่งออก
- หากมองสถานการณ์นี้เป็น "สัญญาณ" ให้ต้องคิดและทำใหม่ ก็จะสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็น "โอกาส" ครั้งสำคัญของประเทศได้
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวหลัง ไทยได้ข้อสรุปจาก “ภาษีทรัมป์” โดยระบุว่า
ขอขอบคุณ Team Thailand โดยเฉพาะทีมจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงพาณิชย์ ที่ทำให้ไทยได้ดีลการค้าจากสหรัฐฯที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเจรจากับมหาอำนาจได้
ดีลที่สหรัฐกำลังทำกับประเทศต่างๆ จะทำให้โลกวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กติกาโลกก็จะไม่เหมือนเก่า
จาก “การค้าเสรี” สู่ “การค้าแบบมีเงื่อนไข” — มีเรา (สหรัฐฯ) ต้องไม่มีจีน
จาก “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ + ทุนญี่ปุ่น/เกาหลี/ยุโรป + Transshipment จีน = สวรรค์ของห่วงโซ่การผลิต”
สู่ยุคที่ภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น เกาหลี และยุโรป สู่สหรัฐ ถูกกว่าสินค้านำเข้าของสินค้าที่ผลิตจากอาเซียน
กติกาใหม่บังคับให้แยกชัด: ประเทศต้นทางของสินค้า, แหล่งที่มาของชิ้นส่วน, สัดส่วนของ Local Content และการพึ่งพาจีน
ภาคเกษตรที่เคยถูกใช้เพื่อเกมการเมืองภายใน กำลังถูกท้าทายเจาะทะลุ Political Iron Dome ของทุกประเทศ โดยประเทศมหาอำนาจที่ทำเกษตรครบวงจรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
สหรัฐฯ ที่เคยขาดดุลกำลังจะเข้าสู่ยุคที่สมดุลขึ้น ทั้งดุลงบประมาณและดุลการค้า
หากธุรกิจไทยพอใจกับ “ดีล 19%” แล้วคิดว่านั่นคือชัยชนะ —นั่นอาจเป็น The Beginning of the End
แต่ถ้าเรามองว่านี่คือ “สัญญาณ” ให้ต้อง คิดใหม่ ทำใหม่ —นี่คือ The New Beginning of Opportunity
ถึงเวลา Restrategize Thailand:
ปรับกลยุทธ์ BOI — จากนับยอด FDI เป็นการเพิ่มขีดความสามารถประเทศ
จาก “โรงงานของโลก” สู่ “สินค้าไทยที่มีนวัตกรรมและเอกลักษณ์”
ส่งเสริม supply chain ภายในประเทศ และสินค้าไทยแท้ ให้ได้แต้มต่อในการจัดซื้อจากภาครัฐ ภาคเอกชน และการบริโภคในประเทศ
แยกแยะธุรกิจเทา สนับสนุนธุรกิจไทยที่มีธรรมมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคม
นี่เป็นเพียงตัวอย่างของชุดความคิดใหม่ ที่ต้องรีบคิดรีบทำ มีอีกหลายอย่างที่เราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะนี่คือโอกาส
This is the new beginning — to make Thailand relevant again.
หมายเหตุ:
Quote ของ Sir Winston Churchill ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่ อังกฤษ ชนะในสมรภูมิแรกๆ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีจุดมุ่งหมายให้คนในชาติอย่ารีบดีใจ กับชัยชนะ (“this is not the end”) ซึ่งจากชัยชนะวันนั้น อังกฤษและ พันธมิตร ยังต้องรบต่อยาวๆกันไปอีกสามปี โดยในที่สุดถึงแม้อังกฤษจะชนะสงคราม แต่สงครามในครั้งนั้นก็ทำให้อังกฤษต้องสิ้นสุดความเป็นมหาอำนาจของโลกไปให้มหาอำนาจใหม่ซึ่งก็คือสหรัฐฯ







