หุ้นโตโยต้าพุ่ง 11% กลุ่ม 'รถยนต์ญี่ปุ่น' บวกแรงรับดีลญี่ปุ่น-สหรัฐ

หุ้นโตโยต้าพุ่ง 11% กลุ่ม 'รถยนต์ญี่ปุ่น' บวกแรงรับดีลญี่ปุ่น-สหรัฐ

หุ้นกลุ่มรถยนต์ญี่ปุ่นพุ่งทะยานถึง 17% รับข่าวดีญี่ปุ่นบรรลุดีลภาษีสหรัฐ และลดภาษีนำเข้ารถยนต์ได้จาก 25% เหลือ 15%

CNBC รายงานว่า หุ้นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงเช้าวันพุธนี้ (23 ก.ค.) หลังจากนายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะของญี่ปุ่น กล่าวว่า ภาษีรถยนต์ของสหรัฐที่เรียกเก็บรถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่นจะลดลงจาก 25% เหลือ 15% โดยราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นสูงสุดในช่วงเช้าดังนี้

  • มาสด้า มอเตอร์ +17% 
  • มิตซูบิชิ มอเตอร์ +13%
  • โตโยต้า มอเตอร์ +12%
  • นิสสัน มอเตอร์ +8%

นอกจากกลุ่มรถยนต์ญี่ปุ่นแล้ว หุ้นของบริษัทรถยนต์เกาหลีใต้ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นฮุนได บวกไปกว่า 6% และเกีย เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2% ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นช่วงเช้าวันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น. ตามเวลาในไทย ดัชนีนิกเกอิ 225 บวกขึ้นไปได้ถึง 1,305.50 จุด หรือบวกได้ถึง 3.29% ไปทะลุ 41,000 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี 

ทั้งนี้ รถยนต์นับเป็นสินค้าส่งออกกลุ่มใหญ่ที่ญี่ปุ่นส่งออกไปตลาดสหรัฐ โดยคิดเป็นสัดส่วน 28.3% ของการส่งออกทั้งหมดไปสหรัฐในปี 2024 จากข้อมูลของกรมศุลกากรญี่ปุ่น แต่หลังจากที่เผชิญภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ 25% การส่งออกรถยนต์ของญี่ปุ่นไปสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักถึง 24.7% ในเดือนพ.ค. และลดลงต่อเนื่องอีก 26.7% ในเดือนมิ.ย. 

เอ็ด โรเจอร์ส ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษา โรเจอร์ส อินเวสต์เมนต์ แอดไวเซอร์ส กล่าวว่า แม้ว่านี่จะเป็น "ข่าวดี" สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น แต่อุตสาหกรรมรถยนต์แดนปลาดิบก็ยังเผชิญกับความท้าทายอื่นๆ โดยเฉพาะการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์ "จีนและเกาหลีใต้" แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นข่าวดีซึ่งสร้างความมั่นใจในระยะสั้นที่จำเป็นอย่างยิ่งว่า ญี่ปุ่นสามารถจัดการกับภาษีของสหรัฐได้

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้เป็นรายล่าสุด โดยสำนักข่าว NHK ระบุว่า สหรัฐตกลงลดอัตราภาษีนำเข้าให้ญี่ปุ่นลงมาครึ่งหนึ่งเหลือ 12.5% แต่บวกกับภาษีชาติที่ได้รับการอนุเคราะห์ยิ่ง (MFN) ไปอีก 2.5% จึงรวมเป็น 15% 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในโซเชียลว่า ญี่ปุ่นตกลงที่จะลงทุนในสหรัฐ 5.5 แสนล้านดอลลาร์ และจะเปิดตลาดสินค้าในกลุ่มรถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และสินค้าเกษตรบางรายการ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ออกมา โดยทรัมป์กล่าวถึงดีลนี้ว่าเป็น “ข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” กับญี่ปุ่น และสหรัฐจะได้กำไร 90%