ราคาทองคำโลกยืนหยัด หลังปรับขึ้นสองวันติด จับตาภาษีทรัมป์ เฟด

ราคาทองคำโลกยืนหยัด หลังปรับขึ้นสองวันติด จับตาภาษีทรัมป์ เฟด

ราคาทองคำโลกยืนหยัด หลังปรับขึ้นสองวันต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำทรงตัวหลังจากปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันสองวัน เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับความเสี่ยงจากมาตรการภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และแนวโน้มนโยบายการเงินของสหรัฐ(เฟด)

ทองคำแท่งซื้อขายสูงกว่า 3,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพุธและพฤหัสบดี (10 ก.ค.) ซึ่งช่วยดึงการลดลงรายสัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เสนอมาตรการภาษีนำเข้าเฉพาะประเทศหลายรายการในสัปดาห์นี้ รวมถึงมาตรการที่ต่อต้านแคนาดาขึ้นภาษี 35% และบราซิล 50% พร้อมกับเลื่อนกำหนดเส้นตายการบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าทั้งหมดออกไปเป็นวันที่ 1 สิงหาคม นอกจากนี้ เขายังวางแผนที่จะเก็บภาษีนำเข้าทองแดงในอัตราสูง 50%

ในส่วนอื่นๆ นักลงทุนกำลังจับตาดูแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ผู้กำหนดนโยบายยังคงรักษาระดับต้นทุนการกู้ยืมให้คงที่ในปีนี้ แม้ว่าจะมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แมรี เดลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เธอยังคงมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งน่าจะเป็นไปได้ โดยมีโอกาสสูงที่ผลกระทบของภาษีนำเข้าจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 

ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลดีต่อราคาทองคำแท่ง

ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 25% ในปีนี้ โดยทำสถิติสูงสุดเหนือ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนเมษายน ความพยายามของทรัมป์ในการปฏิรูปนโยบายการค้ายังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดอย่างต่อเนื่อง ผลักดันความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวต่อเศรษฐกิจโลก การปรับตัวสูงขึ้นนี้ยังได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและแรงซื้อของธนาคารกลาง

อัปเดตราคาเช้า 11 ส.ค.

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% อยู่ที่ 3,332.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 8.32 น. ตามเวลาสิงคโปร์ ค่าดอลลาร์ทรงตัว โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ทรงตัว ราคาโลหะเงินและแพลเลเดียมปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่แพลตตินัมปรับตัวลดลง