'ดอลลาร์' อ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีเทียบยูโร ฟรังก์สวิส-ค่าเงินเอเชีย แข็งค่าหนัก

'ดอลลาร์' อ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปีเทียบยูโร ฟรังก์สวิส-ค่าเงินเอเชีย แข็งค่าหนัก

'ดอลลาร์' อ่อนค่าต่ำสุดสุดในรอบหลายปี ดันค่าเงินสกุลหลักๆ ทั่วโลกแข็งค่าพุ่ง ตลาดกังวลเรื่องการแทรกแซงเฟด ขณะที่มาตรการภาษีทรัมป์ยังอาจนำไปสู่จุดจบของ U.S. exceptionalism

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานวันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและฟรังก์สวิส เนื่องจากตลาดกังวลเรื่อง "ความเป็นอิสระ" ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอนาคต อาจสะเทือนความเชื่อมั่นต่อการกำหนดนโยบายทางการเงินของสหรัฐ 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงินหลักๆ ของโลก หลังจากที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำสุดนับตั้งต้นปี 2022 ไปแตะ 97.401 โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ยูโร - ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ อยู่ที่ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร หรือแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2021 โดยการทะลุแนวต้านที่ 1.1692 ไปได้ทำให้คาดว่ามีสิทธิที่ดอลลาร์จะอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนไปแตะระดับ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโร
  • ปอนด์สเตอร์ลิง - เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.3% ไปอยู่ที่ 1.3723 ดอลลาร์/ปอนด์ หรือแข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2022 
  • ฟรังก์สวิส -ดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส อยู่ที่ 0.8030 ดอลลาร์/ฟรังก์สวิส ขณะที่ในอีกด้าน ฟรังก์สวิสเองยังแข็งค่าเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบเงินเยนญี่ปุ่น ที่ราว 180.55 เยน/ฟรังก์สวิส
  • เยนญี่ปุ่น - เงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.4% เมื่อเทียบดอลลาร์ อยู่ที่ 144.62 เยน/ดอลลาร์ 
  • ดอลลาร์ไต้หวัน - ดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้นสูงสุด 0.7% หรือสูงสุดในรอบ 3 ปี อยู่ที่ 29.15 ดอลลาร์ไต้หวัน/ดอลลาร์สหรัฐ  

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยระบุว่าจะเสนอชื่อและประกาศแต่งตั้ง"ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่"ภายในเดือนก.ย. หรือ ต.ค. นี้แทนที่ เจอโรม พาวเวล ที่กำลังจะหมดวาระในปีหน้า เพื่อบ่อนทำลายตำแหน่งของเขา

“ตลาดน่าจะไม่โอเคกับเรื่องการเสนอชื่อผู้สืบทอดตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะหากการตัดสินใจดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมือง” คีแรน วิลเลียมส์ หัวหน้าฝ่ายอัตราแลกเปลี่ยนเอเชียของ InTouch Capital Markets กล่าว

“การตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นอิสระของเฟดที่อาจลดลง และอาจทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง...หากเป็นเช่นนี้ อาจทำให้ต้องปรับความคาดหวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยใหม่ และกระตุ้นให้มีการประเมินสถานะของดอลลาร์ใหม่”

ทั้งนี้เมื่อวันพุธตามเวลาในสหรัฐ ทรัมป์ได้กล่าวถึงพาวเวลว่า "แย่มาก" ที่ไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็ว โดยประธานเฟดซึ่งขึ้นให้การตอบข้อซักถามสภาคองเกรสเมื่อวันอังคารและวันพุธตามเวลาในสหรัฐ ยังคงยืนยันกับวุฒิสภาเมื่อวานนี้ว่า การปรับนโยบายการเงินยังต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อ

โทนี ซีคามอร์ นักวิเคราะห์จาก IG กล่าวว่า "แม้ว่านี่จะเป็นการโจมตีดอลลาร์ครั้งล่าสุดของทำเนียบขาว แต่ผมคาดว่าดอลลาร์จะได้รับแรงหนุนจากกระแสทุนการปรับพอร์ตในช่วงปลายเดือนและปลายไตรมาสนี้" 

ด้านเจพีมอร์แกนเตือนเมื่อวันพุธว่า ผลกระทบจากภาษีศุลกากรจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงและเงินเฟ้อสูงขึ้น ส่งผลให้มีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยถึง 40% โดยความเสี่ยงของผลกระทบเชิงลบมีมากขึ้น และคาดว่าอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐจะปรับสูงขึ้น"

"ผลลัพธ์ที่ตามมาของการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ ในฉากทัศน์พื้นฐานของเรา ได้คาดการณ์ครอบคลุมถึงการสิ้นสุดของ U.S. exceptionalism เข้าไว้ด้วย"

ทั้งนี้ แนวคิดเรื่อง "US Exceptionalism"ก็คือความเชื่อที่ว่า "สหรัฐมีความพิเศษอยู่เหนือประเทศอื่นๆ" เช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ที่เป็นสกุลเงินสำรองหลักของโลกและมีความปลอดภัยสูง