'แบงก์ชาติสวิส' หั่นดอกเบี้ย กลับสู่ยุคดอกเบี้ย 0% ประเทศแรกของโลก

'แบงก์ชาติสวิส' หั่นดอกเบี้ย  กลับสู่ยุคดอกเบี้ย 0% ประเทศแรกของโลก

ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศหั่นอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% และอาจเป็นประเทศแรกในโลก ที่จะกลับไปสู่ยุค 'อัตราดอกเบี้ยติดลบ' อีกครั้ง หลังค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สวนกระแสเงินฝืด และเศรษฐกิจโตต่ำ ด้านแบงก์ชาติ 'นอร์เวย์ - ฟิลิปปินส์' ลดดอกเบี้ยวันนี้เช่นกัน

ในวันนี้ (19 มิ.ย.68) ที่ประชุมธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์มีมติตามความคาดหมายของตลาด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสวิส ลดลงแตะระดับ 0% และยิ่งตอกย้ำความกังวลว่าประเทศจะกลับไปสู่ยุคของ "อัตราดอกเบี้ยติดลบ" อีกครั้ง

“แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ด้วยการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินในวันนี้ ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) กำลังตอบสนองต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง" ธนาคารกลางระบุในแถลงการณ์

"SNB จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหากจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับเสถียรภาพราคาในระยะกลาง" 

ในขณะที่ประเทศอื่นๆ กำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ สวิตเซอร์แลนด์กลับเผชิญกับ "ภาวะเงินฝืด" ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ปรับตัวลดลง 0.1% และประเทศนี้ก็เคยเผชิญกับภาวะเงินฝืดยาวนานมาแล้วหลายครั้งในช่วงทศวรรษ 2010s และ 2020s โดยในครั้งนี้มีปัจจัยหลักๆ มาจากการแข็งค่าขึ้นของเงินฟรังก์สวิส 

ชาร์ลอตต์ เดอ มงต์เปลลิเย นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคาร ING ระบุว่า เนื่องจากเงินฟรังก์สวิสเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จึงมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นเมื่อตลาดโลกเกิดความตึงเครียด ปัจจัยนี้เองจะกดให้ราคาสินค้านำเข้าลดลงอย่างเป็นระบบ ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นเศรษฐกิจขนาดเล็กที่เปิดกว้าง และการนำเข้าก็คิดเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ใน CPI

สู่ยุคดอกเบี้ยติดลบ?

เอเดรียน เพรทจอห์น นักเศรษฐศาสตร์ยุโรปจาก Capital Economics กล่าวก่อนทราบผลการประชุมของแบงก์ชาติสวิสในวันนี้ว่า เขาคาดว่าอัตราดอกเบี้ยโดยรวมในปีนี้จะลดลงสู่ระดับติดลบที่ -0.25% แต่ก็ตั้งข้อสังเกตด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะติดลบยิ่งกว่านั้น 

“มีความเสี่ยงที่ SNB จะปรับลดลงในอนาคตหากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังไม่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดที่อาจลงไปถึงก็คือ -0.75% ซึ่งเป็นอัตราที่เคยมีมาก่อนในช่วงทศวรรษ 2010” เพรทจอห์น กล่าวกับ CNBC

แม้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้การกู้ยืมมีราคาถูกลง และส่งเสริมการลงทุน แต่อัตราดอกเบี้ยติดลบก็ยังมีข้อกังวล และความเสี่ยงบางประการ รวมถึงสำหรับผู้ฝากออมเงิน และสำหรับธนาคารซึ่งจะได้รับผลตอบแทนจากเงินกู้ที่ลดลง ซึ่งนักวิเคราะห์จาก ING ตั้งข้อสังเกตว่าในท้ายที่สุดอัตราดอกเบี้ยติดลบอาจ “บิดเบือนตลาดการเงิน บีบอัตรากำไรของธนาคาร และเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว”

'นอร์เวย์-ฟิลิปปินส์' ลดดอกเบี้ยวันนี้ 

ในวันเดียวกัน "ธนาคารกลางนอร์เวย์" ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยลดลง 0.25% เหลือ 4.25% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ หลังจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงเร็วกว่าที่คาด

ธนาคารกลางนอร์เวย์ ระบุในแถลงการณ์ว่า “แม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน แต่หากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้โดยรวม ดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลดลงอีกในปี 2568”

ทางด้านธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะสั้นลง 25 bsp เหลือ 5.25% ซึ่งถือเป็นการปรับลด "ครั้งที่สอง" ในปีนี้ และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงจาก 6.00% เหลือ 5.75% เพื่อพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น

หากนับตั้งแต่รอบการผ่อนคลายนโยบายของฟิลิปปินส์ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนส.ค.2024 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วรวม 1.25%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์