ราคาทองคำ พุ่งสูงสู่ออลไทม์ไฮ ผวาสงครามการค้าจากภาษีทรัมป์

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ นักลงทุนแห่ซื้อเพราะหวั่นสงครามการค้าโลกที่เกิดจากการขึ้นภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
รอยเตอร์ รายงาน ราคาทอง ภาวะตลาด ทองคำโลก วันศุกร์ (28มี.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทยว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 0.6% สู่ระดับ 3,074.43 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 14.41 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18.39 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 18 ในปีนี้ที่ 3,086.70 ดอลลาร์ในช่วงต้นตลาด
ราคาทองคำแท่ง พุ่งขึ้น 1.7% ในสัปดาห์นี้ และมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
ราคาทองคำ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ (Gold Futures) ปิดตลาดสูงขึ้น 0.8% สู่ระดับ 3,114.30 ดอลลาร์
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความหวาดกลัวสงครามการค้าโลกที่เกิดจากมาตรการขึ้นภาษีล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์โลหะอาวุโสของดีลเลอร์ Zaner Metals กล่าวว่า “ความต้องการทองคำสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงมีต่อไป จากกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาษีศุลกากร การค้า และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่”
ทองคำซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง ราคามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ
ด้านสถานการณ์เงินเฟ้อล่าสุดในสหรัฐ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งใกล้เคียงกับการเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม
ข้อมูลดังกล่าวไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มากนัก เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีสูงกว่าที่คาดไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แกรนท์กล่าวเสริม
จนถึงขณะนี้ เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในปีนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีที่แล้ว แต่มีแนวโน้มว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง0.5% ในช่วงที่เหลือของปี
ปัจจุบัน ตลาดคาดเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 63 เบซิสพอยท์ ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ขณะนี้ตลาดกำลังเตรียมรับมือกับแผนการของทรัมป์ที่จะขึ้นอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ประเทศคู่ค้า ซึ่งเขาตั้งใจจะประกาศในวันที่ 2 เมษายน
นักวิเคราะห์มองว่านโยบายทรัมป์นั้นก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น
- ราคาโลหะเงิน ลดลง 1.4% เหลือ 33.93 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ราคาแพลตตินัม ลดลง 0.7% เหลือ 979.10 ดอลลาร์
- ราคาแพลเลเดียม ลดลง 0.3% เหลือ 972.13 ดอลลาร์
ทั้งสามมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์







