ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและทรัมป์ขู่ขึ้นภาษี

ราคาทองคำกลับมาขึ้นเหนือ 2,900 ดอลลาร์อีกครั้ง ได้แรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดยังกังวลความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์
รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกว่า ราคาทองคำกลับพุ่งขึ้นเหนือ 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้งในวันจันทร์ (17 ก.พ.) โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและความกลัวต่อสงครามการค้า ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ที่จะขึ้นภาษีตอบโต้ทุกประเทศ
โดยราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) ปรับเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 2,897.49 ดอลลาร์ ณ เวลา 14.10 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (19.10 GMT) ย่อลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ขึ้นไปถึง 2,906.38 ดอลลาร์ จากที่ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,942.70 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปรับขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,910.30 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ทำให้ผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นซื้อทองคำแท่งได้ในราคาที่ถูกลง
“ทองคำยังคงได้รับประโยชน์จากนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและสงครามการค้า” จิโอวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์ของธนาคาร UBS กล่าว
“เรายังคงเห็นแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ โดยคาดว่าโลหะสีเหลืองจะพุ่งแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของธนาคารกลางที่ยังคงต้องการซื้อทองคำ”
ในวันศุกร์ ทรัมป์ยังคงขู่ที่จะขึ้นภาษีศุลกากรกับทุกประเทศต่อไป โดยระบุว่าการจัดเก็บภาษีรถยนต์จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งถือเป็นมาตรการทางการค้าล่าสุดที่เขาเปิดเผยตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในสมัยที่สอง
การเจรจาสันติภาพยูเครนกลายเป็นประเด็นสำคัญในตลาด มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าเคียฟและยุโรปจะเป็นส่วนหนึ่งของ “การเจรจาที่จริงจัง” เพื่อยุติสงครามของรัสเซียในยูเครน
บทวิเคราะห์ของธนาคาร Morgan Stanley ที่เผยแพร่ในวันศุกร์ระบุว่า “เรายังคงจับตาดูอุปสงค์ที่อาจลดลงของธนาคารกลาง ในกรณีที่มีข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน”
ทองคำแท่งถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงแบบดั้งเดิมต่อเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ความน่าสนใจของทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยลดลง
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐจะออกมาให้ความเห็นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และนักลงทุนจะเฝ้าติดตามสัญญาณ เกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันประธานาธิบดี
ด้านราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 0.8% สู่ระดับ 32.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมเมื่อวันศุกร์ ราคาแพลตตินัมลดลง 0.1% สู่ระดับ 979.07 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมพุ่งขึ้น 1.4% สู่ระดับ 974.99 ดอลลาร์