S&P 500 ย่อตัวลงในวันศุกร์หลังทำสถิติขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

S&P 500 ย่อตัวลงในวันศุกร์หลังทำสถิติขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในวันศุกร์ แต่หุ้นยังปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ตลาดกลับมาอยู่ในแดนกระทิง นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟด ในวันที่ 28-29 ม.ค.

ซีเอ็นบีซีรายงานภาวะตลาดหุ้นสหรัฐในวันศุกร์ (24 ม.ค.) ว่า ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดลดลง หลังจากทำลายสถิติใหม่ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรเพื่อปิดสัปดาห์ที่แข็งแกร่ง โดยศูนย์กลางของความเคลื่อนไหวอยู่ที่การกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนีอ้างอิงลดลง 0.3% เหลือ 6,101.24 จุด ซึ่งเป็นการกลับทิศหลังจากทำลายสถิติใหม่ในช่วงต้นวันของการซื้อขาย ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ลดลง 0.5% เหลือ 19,954.30 จุด ดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 140.82 จุด หรือ 0.3% เหลือ 44,424.25 จุด 

การปรับตัวลงในวันศุกร์ทำให้การปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันของดัชนีหลักทั้งสามต้องหยุดลง

หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่บางตัวที่ช่วยผลักดันให้ตลาดทำสถิติสูงสุดตลอดกาลได้ปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขาย ทำให้หุ้นได้รับแรงกดดันให้ปรับตัวลดลง ราคาหุ้น Nvidia ลดลงมากกว่า 3% ในขณะที่ Tesla ลดลงมากกว่า 1%

แม้ว่าหุ้นจะย่อตัวลงในวันศุกร์ แต่ความตื่นเต้นต่อนโยบายที่สนับสนุนธุรกิจของทรัมป์ได้ผลักดันให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับการเข้ารับตำแหน่งของเขา นักลงทุนยังโล่งใจที่ในช่วงไม่กี่วันแรกที่เขาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว มีเพียงการขู่ด้านภาษีศุลกากรเท่านั้น แทนที่จะมีการดำเนินการขึ้นอัตราภาษีอย่างเป็นทางการ

สำหรับในรอบสัปดาห์ ดัชนีหลักทั้งสาม ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2  ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกระทิงกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากที่ปรับตัวลดลงในเดือนธันวาคม โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1.7% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนี Dow ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2%  ทั้งนี้ นอกจากจะทำสถิติใหม่ในระหว่างวันของการซื้อขาย ในสัปดาห์นี้แล้ว ดัชนี S&P 500 ยังทำสถิติปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีอีกด้วย

ที่น่าสังเกตคือ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาจะ "เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันที" ในระหว่างปราศรัยผ่านทางออนไลน์ต่อผู้นำโลกที่เวทีการประชุมเศรษฐกิจโลก  World Economic Forum เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ประธานาธิบดียังกล่าวอีกว่าเขาจะขอให้ซาอุดีอาระเบียและประเทศสมาชิกโอเปกอื่นๆ ลดราคาน้ำมัน

"จนถึงขณะนี้ ตลาดตอบสนองต่อทุกคำกล่าวของประธานาธิบดี แม้กระทั่งคำกล่าวที่ไม่ควรส่งผลกระทบใดๆ" มาร์ก มาเล็ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของโบรกเกอร์ Siebert กล่าว "สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ค้ายังไม่ปักใจเชื่อไปทิศทางหนึ่งทิศทางใด"

นอกเหนือจากการเมืองแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูข่าวของบริษัทและรายงานผลประกอบการ หุ้น Novo Nordisk พุ่งขึ้นมากกว่า 8% หลังจากผลการศึกษาในระยะเริ่มต้นของยาลดน้ำหนักได้ผลเชิงบวก ในทางกลับกัน Texas Instruments ร่วงลงมากกว่า 7% จากการคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนแอ

ส่วนในสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้จะมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น นักลงทุนจะพุ่งความสนใจไปที่ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 มกราคม  ตามข้อมูลของเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME Group ตลาดสัญญาซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงินที่อิงกับดอกเบี้ยเฟด สะท้อนว่ามีโอกาสมากกว่า 99% ที่ธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม