ดาวโจนส์ ไหลลง 7 วันติด ร่วงนานสุดตั้งแต่ปี 2020 แต่ Nasdaq ปิดบวก 4 สัปดาห์ติด

ดาวโจนส์ ไหลลง 7 วันติด ร่วงนานสุดตั้งแต่ปี 2020 แต่ Nasdaq ปิดบวก 4 สัปดาห์ติด

ดาวโจนส์ ไหลลง 7 วันติด ถือเป็นร่วงลงยาวนานสุดตั้งแต่ปี 2020 แต่ Nasdaq ยังคงปิดบวกได้เป็นสัปดาห์ที่สี่ หลังหุ้น Broadcom พุ่งขึ้น 24% มูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลงเป็นครั้งที่ 7 ในวันศุกร์ (13 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ โดยร่วงลงต่อเนื่องยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 2020 แต่ดัชนี Nasdaq ปิดบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน

  • ดัชนีหุ้นบลูชิป Dow Jones ร่วงลง 86.06 จุด หรือ 0.2% ปิด ที่ 43,828.06 จุด 
  • ดัชนี Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.12% ปิดที่ 19,926.72 จุด 
  • ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลง ปิดที่ 6,051.09 จุด

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี Dow Jones ลดลง 1.8% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ลดลงประมาณ 0.6% และสิ้นสุดช่วงขาขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.3% ในช่วงเวลา ดังกล่าว

"เราติดอยู่ในช่วงการซื้อขายนี้" เจย์ แฮทฟิลด์ ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาการลงทุน Infrastructure Capital Advisors กล่าวกับ ซีเอ็นบีซี 

“Nasdaq จะมีผลงานดีกว่า หุ้นขนาดเล็กจะมีผลงานด้อยกว่า และดาวโจนส์จะมีผลงานด้อยกว่าจนกว่าเราจะได้ตัวเร่งปฏิกิริยาบางอย่าง”

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีหลักทั้ง 3 ของ วอลล์สตรีท ร่วงลง นอกจากนี้ Nasdaq Composite ยังหล่น จากระดับ 20,000 จุดอีกด้วย

หุ้น Nvidia ร่วงลงมากกว่า 2% และ หุ้น Meta Platforms ร่วงลงมากกว่า 1% ส่วน หุ้น Amazon ก็ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน ในทางกลับกัน หุ้น Broadcom พุ่งขึ้นมากกว่า 24% หลังจากประกาศรายได้ที่ปรับแล้วในไตรมาสที่ 4 ของ ปีงบประมาณที่สูงกว่าประมาณการ และรายงานว่ารายได้ จากปัญญาประดิษฐ์พุ่งขึ้น 220% ในปีนี้ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทพุ่งทะยานถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก

ด้านเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดานักลงทุนคาดว่า มีโอกาสสูงถึง 97% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่ามีโอกาสที่เฟดจะหยุดพักการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนม.ค. 2568

ไพเพอร์ แซนด์เลอร์เชื่อหุ้นอาจฟื้นในอีกไม่กี่สัปดาห์

เคร็ก จอห์นสัน หัวหน้าฝ่ายเทคนิคตลาดของวาณิชธนกิจ Piper Sandler ตั้งเป้าดัชนี S&P 500 ไว้ที่ 6,100 จุดในช่วงปลายปีนี้ ส่วนเป้าหมายดัชนีตลาดโดยรวมสำหรับสิ้นปี 2025 ของเขาคือ 6,600 จุด

“การสลับสับเปลี่ยนกลยุทธ์ระหว่างหุ้นขนาดใหญ่และหุ้นขนาดกลางและเล็ก ดูเหมือนจะเป็นธีมระยะสั้นกำลังเกิดขึ้นในบริบทของกระบวนการขยายตลาด” เขากล่าวและแนะนำให้ซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีแต่ราคาย่อลง