'เงินเยน' อ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี ตลาดคาด BOJ ยังผ่อนคลายแม้ยุติดอกเบี้ยติดลบ

'เงินเยน' อ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี ตลาดคาด BOJ ยังผ่อนคลายแม้ยุติดอกเบี้ยติดลบ

เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดในรอบ 13 ปีเมื่อเทียบยูโร ตลาดคาด BOJ ยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย แม้ปิดฉากยุคดอกเบี้ยติดลบก็ตาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เมื่อเทียบกับยูโร โดยถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน แม้ว่า BOJ ได้ประกาศยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมเมื่อวานนี้แล้วก็ตาม

ค่าเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำถึง 164.35 เยนต่อยูโรในช่วงเช้าวันนี้ ก่อนทยอยดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา

เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินเยนยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2567 นี้ ค่าเงินเยนร่วงลงราว 7% แล้ว ส่งผลให้เงินเยนกลายเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในบรรดาสกุลเงินของกลุ่มประเทศ G10

การอ่อนค่าลงของเงินเยนเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า เงินเยนจะยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเพราะอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในสกุลเงินเยนจะน้อยกว่าสกุลเงินอื่น ๆ ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว นอกจากนี้ เงินเยนยังอ่อนค่าลงจากถ้อยแถลงของนายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ และเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ของ BOJ ที่ยืนยันว่านโยบายการเงินจะยังคงอยู่ในลักษณะผ่อนคลาย แม้ว่า BOJ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีและประกาศยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) เมื่อวานนี้ก็ตาม

"การที่เงินเยนทำผลงานย่ำแย่ที่สุดนั้นเป็นเพราะตลาดตีความว่า การตัดสินใจของ BOJ ในการประชุมเมื่อวานนี้เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่ยังคงมีจุดยืนในการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย (dovish hike) เราคาดว่าเงินเยนอาจจะอ่อนค่าทะลุ 165 เยนต่อยูโร หากทางฝั่งยูโรโซนมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น" อเล็กซ์ ลู นักกลยุทธ์จากบริษัททีดี ซิเคียวริตีส์ในสิงคโปร์กล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับ 0 ถึง 0.1% จากระดับ -0.1%

นอกจากนี้ BOJ ได้ประกาศยุตินโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี โดยที่ผ่านมา BOJ ได้ใช้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวผ่านการซื้อและขายพันธบัตรดังกล่าว

ทั้งนี้ ก่อนการตัดสินใจดังกล่าว นักวิเคราะห์ราว 90% มองว่า มีโอกาสที่ BOJ อาจยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมครั้งล่าสุดนี้

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า BOJ จะยุติการซื้อกองทุน ETF และ J-REITS ซึ่งเป็นกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น และจะค่อย ๆ ปรับลดการซื้อตราสารหนี้เอกชน โดยวางแผนว่าจะยุติการซื้อตราสารหนี้เอกชนภายในระยะเวลา 1 ปี อย่างไรก็ดี BOJ จะยังคงเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่นในวงเงินเท่ากับในช่วงที่ผ่านมา