เหยื่อช็อกสูญ 26 ล้าน แก๊งทักเฟซบุ๊กเนียนตีสนิท หลอกลงทุนเงินดิจิทัล

เหยื่อช็อกสูญ 26 ล้าน แก๊งทักเฟซบุ๊กเนียนตีสนิท หลอกลงทุนเงินดิจิทัล

ขบวนการสุ่มทักเฟซบุ๊กเนียนตีสนิท หลอกลงทุนเงินดิจิทัล เหยื่อแทบช็อกสูญไป 26 ล้าน ตำรวจไซเบอร์ตามจับ

กรณีแก๊งทักเฟซบุ๊กเนียนตีสนิท หลอกลงทุนเงินดิจิทัล สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน พ.ย. 2566 คนร้ายได้สุ่มทักเฟซบุ๊กส่วนตัวของผู้เสียหาย ชวนคุยตีสนิท แล้วชักชวนให้ลงทุน โดยอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มการลงทุนของ ATFX ซี่งผู้เสียหายทราบมาก่อนแล้วว่าเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยลงทุนมาก่อน จึงได้หลงเชื่อและได้ทดลองโอนเงิน 

ครั้งแรกสามารถเบิกถอนเงินและมีกำไร จึงเชื่อว่าเป็นการลงทุนจริงๆ จากนั้นได้ทยอยโอนเงินลงทุนไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าเป็นจำนวนมากเพียงพอและผลการลงทุนมีกำไรมากแล้ว จึงขอถอนเงินต้นและผลกำไร แต่ทางคนร้ายแจ้งว่าต้องจ่ายภาษี จ่ายค่าธรรมเนียม โดยต้องโอนเงินเข้าบัญชีก่อน จึงจะสามารถเบิกถอนได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินให้ตามที่คนร้ายบอก ก็ยังไม่สามารถเบิกถอนเงินได้อีก

ผู้เสียหายรู้สึกว่าผิดสังเกต จึงได้ติดต่อไปที่แพลตฟอร์ม ATFX จริง ให้ช่วยตรวจสอบ และได้รับแจ้งว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นเป็นของปลอม จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงให้ลงทุน มูลค่าความเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้สืบสวนสอบสวนนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เหยื่อช็อกสูญ 26 ล้าน แก๊งทักเฟซบุ๊กเนียนตีสนิท หลอกลงทุนเงินดิจิทัล

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 , พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการและเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ดำเนินการสืบสวนและขยายผล เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาวันที่ 20 ม.ค.67 พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 ดำเนินการจับกุม น.ส.อาทิตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่

ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเป็นผู้สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”