ดาวโจนส์บวกต่อเนื่อง 300 จุด ด้าน S&P 500 ทำสถิติปิดบวกสูงสุดในปี 2566

ดาวโจนส์บวกต่อเนื่อง 300 จุด ด้าน S&P 500 ทำสถิติปิดบวกสูงสุดในปี 2566

ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังปิดบวกแรงต่อเนื่องอีกวันรับต้นเดือน ธ.ค. ดัชนีดาวโจนส์ทะยาน 300 จุด ขณะที่ S&P 500 ปิดบวกดีสุดในรอบปีนี้ แม้ประธานเฟดจะส่งสัญญาณเตือนว่าเร็วไปที่จะประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดวันที่ 1 ธ.ค. อย่างสดใส ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวก 294.61 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 36,245.50 จุด

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 บวก 0.59% ปิดที่ 4,594.63 จุด และดัชนีแนสแดค คอมโพสิต บวก 0.55% ปิดที่ 14,305.03 จุด

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ยังทำสถิติปิดบวกสูงที่สุดในปี 2566 ขณะที่ดาวโจนส์บวกขึ้นรวมแล้ว 9.4% ในปีนี้ 

นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือน มี.ค. 2567 หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ชะลอตัวจากเดือนก.ย. และดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่หดตัวเป็นเดือนที่ 13

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566 และม.ค.2567 ขณะที่ให้น้ำหนัก 55.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.2567

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่า เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเพิ่งกล่าวในวันเดียวกันว่า ขณะนี้ยังคงเร็วเกินไปที่เฟดจะประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อก็ตาม

ดาวโจนส์บวกต่อเนื่อง 300 จุด ด้าน S&P 500 ทำสถิติปิดบวกสูงสุดในปี 2566

"เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่เราจะสรุปด้วยความเชื่อมั่นว่าเราได้บรรลุจุดยืนในการใช้นโยบายที่มีความเข้มงวดเพียงพอ หรือจะทำการคาดเดาว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเมื่อใด โดยเราเตรียมพร้อมที่จะใช้นโยบายที่เข้มงวดต่อไป หากเป็นสิ่งเหมาะสมที่จะทำ จนกว่าเราจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับ 2% อย่างแน่นอน" พาวเวลกล่าวในงานเสวนาที่แอตแลนตา

พาวเวลล์ กล่าวว่า แม้ว่าเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

นอกจากนี้ยังระบุว่า เฟดจะไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายไว้ล่วงหน้า และการตัดสินใจในการประชุมแต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับ และสิ่งบ่งชี้สำหรับแนวโน้มด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ รวมทั้งการรักษาสมดุลของความเสี่ยง