เงินสด 13 ล้าน! ลอบขนเข้ากัมพูชา แฉเอี่ยว ผจก.แบงก์ ช่วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เงินสด 13 ล้าน! ลอบขนเข้ากัมพูชา แฉเอี่ยว ผจก.แบงก์ ช่วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ผงะ เงินสด 13 ล้าน! ลอบขนเข้ากัมพูชา แฉเอี่ยว ผจก.แบงก์ ส่งคนตระเวนถอนเงินจากบัญชีม้า ช่วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฟอกเงินผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันสกัดจับชาวกัมพูชาร่วมมือกับคนไทย ตระเวนเบิกเงินสดจากธนาคารต่าง ๆ ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รวมครั้งละ 10-20 ล้านบาท เพื่อเอาข้ามแดน โดยทำมาได้ประมาณ 2 เดือนกว่าแล้ว คาดเอี่ยวขบวนการคอลเซ็นเตอร์และลอบนำเงินตราข้ามประเทศโดยผิดกฎหมาย พบอีกว่า มีคนระดับ ผู้จัดการธนาคาร มีส่วนร่วมช่วยเหลือ 

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบและติดตามขยายผล เพื่อกวาดล้างเครือข่ายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการลักลอบ นำเงินตราออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย 

พล.ต.ท.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 , พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผบช.ภ.2/รองผอ.ศปปง.ภ.2 , พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว , พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และ ตำรวจ สภ.คลองลึก ร่วมกันจับกุมตัวนายซารุน อายุ 41 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางเงินสดอยู่ในกระเป๋าเป้สะพาย จำนวน 13,500,000 บาท 

ทั้งนี้ จากการตรวจนับพบเป็นธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท เป็นปึกละ 100,000 บาท มัดรวมกันเป็น มัดละ 1,000,000 จำนวน 9 มัด รวมเป็นเงิน 9,0000,000 บาท 

และ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 เป็นปึกละ 50,000 บาท มัดละ 500,000 บาท จำนวน 9 มัด รวมเป็นเงิน 450,000 บาท 

รวมทั้งสิ้น 13,500,000 บาท (สิบสามล้านห้าแสนบาท) ได้ที่บริเวณใกล้ตลาดโรงเกลือ ขณะจะลักลอบนำเงินจำนวนดังกล่าวออกไปประเทศกัมพูชา เพื่อนำไปส่งมอบให้กับนายทุน 

จากการสอบถาม นายซารุน รับสารภาพว่า จะลักลอบนำเงินออกไปยังประเทศกัมพูชาโดยเป็นเงินของนายเพี๊ยะ ชาวกัมพูชา ที่ว่าจ้างให้ตนมารับเงินจากคนไทยที่เป็นผู้เบิกเงินให้จากธนาคาร เพื่อนำออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 จะได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งจะเอาเงินเพื่อนำออกครั้งละประมาณ 10-20 ล้าน เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากธนาคารปิดทำการ 

พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ให้ข้อมูลว่า แนวทางสืบสวนทราบอีกว่า มีอดีตผู้จัดการธนาคารเป็นผู้รับจ้าง จากนายเพี๊ยะ ทำหน้าที่เป็นผู้ที่รับมอบอำนาจจากเจ้าของบัญชีม้าต่าง ๆ กว่า 10 บัญชี เพื่อตระเวนมาทำธุรกรรมในการเบิกถอนเงินสดจากธนาคารเวียนในพื้นที่ ตลาดโรงเกลือ และอรัญประเทศ เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ต้องหา ก่อนที่จะลักลอบขนข้ามประเทศไปยังฝั่งกัมพูชาให้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการขนเงิน
 
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดฐาน "พยายามนำหรือพาเงินตราที่เป็นของต้องจำกัดออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องและฐานละเลยและฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด" ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก ดำเนินคดีและจะได้ขยายผลทางบัญชีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย