แฉ! ข้าราชการสาว ถูกหลอกซื้อรถกู้เงินเทรดหุ้น หนี้ 5 ล้าน ขู่แบล็กเมล์ภาพลับ

แฉ! ข้าราชการสาว ถูกหลอกซื้อรถกู้เงินเทรดหุ้น หนี้ 5 ล้าน ขู่แบล็กเมล์ภาพลับ

บอกต่อเตือนภัย! ข้าราชการสาว แฉถูกหลอกซื้อรถกู้เงินเทรดหุ้น หนี้ 5 ล้าน ขู่แบล็กเมล์ภาพลับ ร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วยหลังโมโหร้ายตบตี

กรณีข้าราชการสาว ทุกข์เกินรับไหว เข้าร้อง “บิ๊กโจ๊ก” รองผบ.ตร. ให้ช่วย หลังถูกหนุ่มที่รู้จักผ่านแอปหาคู่ เข้ามาตีสนิท หลอกให้ซื้อรถ และกู้เงินมาลงทุน เทรดหุ้น เป็นหนี้สินเกือบ 5 ล้านบาท หลังได้เงินมากลับเปลี่ยนไป โมโหร้ายตบตี และไม่ยอมช่วยใช้หนี้ที่กู้ยืมมา สุดท้ายให้เอารถไปจำนำและข่มขู่จะแบล็กเมล์

ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำผู้เสียหาย ข้าราชการหญิง สังกัดหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม เข้าร้องเรียนกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ “บิ๊กโจ๊ก” 

หลังถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นนักเทรดหุ้น มีความเชี่ยวชาญ จะสอนเล่นหุ้น ลวงให้กู้เงินธนาคาร หลอกลวงให้ออกรถ นำรถไปจำนำ ทำให้เจ้าตัวต้องเดือดร้อนเป็นหนี้สินเกือบ 5 ล้านบาท พอเรียกร้องขอเงินคืน กลับถูกทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ว่าจะเอาคลิปภาพ ไปเผยแพร่ในที่ทำงาน ด้วยความเกรงกลัวไม่ปลอดภัย

น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับชายไทยคนนี้ อายุประมาณ 41 ปี ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ เมื่อช่วงต้นเดือน เมษายนที่ผ่านมา ตอนรู้จักกันฝ่ายชายมีความน่าเชื่อถือ พูดจาดีบอกว่า จบปริญญาตรี 2 ใบ มีเงินฝากอยู่ต่างประเทศ และเชี่ยวชาญในด้านการเล่นหุ้น forex ก่อนหน้านี้ตนมีหนี้อยู่ 800,000 บาท ฝ่ายชายบอกว่า ขอให้ทำตามที่เขาบอกแล้วจะช่วยปลดหนี้ให้

ภายหลังฝ่ายชาย ออกอุบายให้ตนไปซื้อรถมินิคูเปอร์ และรถโตโยต้าคัมรี่ โดยบอกว่าจะจ้างคนมาสอนขับรถ แต่ตอนนั้นมีแต่พาไปธนาคาร พอตนสงสัยอะไร เริ่มถามเขาจะตวาด ข่มขู่ ตนมีโรคประจำตัวเป็นไบโพล่า รักษาอาการป่วยมา 7 ปี มีภาวะหวาดกลัว ตัวสั่น หากได้รับการตะคอกข่มขู่

แฉ! ข้าราชการสาว ถูกหลอกซื้อรถกู้เงินเทรดหุ้น หนี้ 5 ล้าน ขู่แบล็กเมล์ภาพลับ

ระยะหลังฝ่ายชายบอกให้ตนพาไปซื้อทอง ซื้อโทรศัพท์มือถือ ในระหว่างคบหาฝ่ายชายได้รู้จักทางบ้านตน และมีการข่มขู่ เมื่อทวงเงิน หรือว่าทวงถามเรื่องบิลค้างชำระ ทำไมไม่จ่าย ฝ่ายชายจะถามกลับมาว่า ให้ไปแก้ปัญหาหนี้เอง ทำให้ตนรู้สึกกังวลว่า ตนพลาดที่ไปซื้อรถตามที่เขาบอกตั้งแต่แรก

น.ส.เอ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นมาฝ่ายชายให้ทำอะไร ตนต้องทำตามหมด เพราะตอนนั้นไม่มีปัญญา ที่จะจ่ายค่างวดรถ ค่ารถ 2 คัน จำนวน 3 ล้านบาท พอมีปัญหาเรื่องเงินหนักขึ้น มีการทะเลาะกัน สุดท้ายก็โดนทำร้ายร่างกาย ด้วยการตบกกหู 

ตอนนี้เลยเถิดถึงขั้นว่า ให้เอารถไปจำนำกับเต็นท์รถ ตอนนี้ไม่ทราบว่ารถไปอยู่ไหน มีเพียงบิลต่างๆ และมีโทรศัพท์มาทวงเงินทุกเดือน หนักเข้าฝ่ายชาย ให้ตนยืมเงินเพื่อนสนิทที่ทำงาน และบอกให้แม่ไปหาเงินมาให้เขา อ้างว่ามีเช็คที่ธนาคารต่างประเทศ ต่างธนาคารใช้เวลาหลายวัน ถ้าได้เงินมาแล้วจะคืนให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คืน อ้างว่าเป็นเพราะตนปฏิบัติไม่ดี พูดไม่ดีกับเขา

“ตอนนี้รู้สึกกังวลในเรื่องความปลอดภัย ทั้งโทรศัพท์มือถือ อีเมล เขาสามารถเข้าถึงได้หมด ข่มขู่ว่าจะทำร้ายแม่และน้อง พอเลิกกัน เขาไม่รับโทรศัพท์ อ้างว่าตัวเองมีอิทธิพลใน 9 จังหวัดภาคใต้ อ้างว่ามีอิทธิพลในเขตลาดพร้าว ตนหวาดกลัว รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย สุดท้ายขอมาพึ่งเพจสายไหมต้องรอด ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อที่จะจัดการกับคนๆ นี้ อย่างน้อยก็ไม่ให้ไปก่อเหตุกับใครอีก เพราะทราบว่ามีผู้หญิงที่ภาคใต้เป็นครู ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน มีการให้ไปซื้อรถ ซื้อบ้านและสุดท้ายภาระก็เป็นของฝ่ายหญิง เรื่องนี้อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย”

น.ส.เอ กล่าวปิดท้ายว่า สุดท้ายตนต้องเป็นหนี้เกือบ 5 ล้าน บัญชีต่างๆ ไม่สามารถใช้ได้ เนื่องจากติดสินเชื่อ เงินติดตัวก็ไม่มี สุดท้ายได้พี่ช่วยให้ค่ารถเดินทางไปทำงาน ตนยังติดหนี้เพื่อนอีก ตอนนี้กลัวว่า จะล้มละลาย แต่การล้มละลายยังไม่เท่ากับทำให้คนอื่นเดือดร้อน ทำให้แม่เดือดร้อน “มันเอาแม้กระทั่งเงินของน้องตน 500 บาท มันก็เอา”

นายเอกภพ กล่าวว่า เดี๋ยวนี้วิธีของมิจฉาชีพ จะใช้ชื่อแฝงของเหยื่อในการซื้อรถ แล้วเอารถของเหยื่อไปจำนำ อย่างกรณีล่าสุดใช้เวลาเพียง 3 เดือน ทำผู้เสียหายหมดเงินไปเกือบ 5 ล้านบาท เมื่อสอบถามผู้เสียหายถึงทราบว่า ไม่ใช่การคบหา ฝ่ายมิจฉาชีพต้องการมาหลอก อ้างตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น forex ใช้วิธีการกู้ยืมเงิน กับทางธนาคาร อ้างว่าจะหาทางปิดหนี้กับทางสหกรณ์ จำนวน 800,000 บาทให้ สุดท้ายแค่ 3 เดือน ทำให้ผู้หญิงตกเป็นหนี้สินถึง 5 ล้านบาท

การเป็นข้าราชการ หากเป็นหนี้สถาบันการเงิน ก็จะเป็นบุคคลล้มละลาย สุดท้ายต้องออกจากราชการ ฝ่ายชายพาไปกู้ อ้างว่าเป็นการสร้างเครดิต แต่สุดท้ายเงินที่กู้มาฝ่ายหญิงไม่ได้ใช้ ฝ่ายมิจฉาชีพเอาไปหมด จัดการโอนเงิน แฮกข้อมูลของฝ่ายหญิงทั้งหมด ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย มีการถ่ายภาพไว้แบล็กเมล์ คนแบบนี้เอาไว้ไม่ได้ เป็นสูตรสำเร็จของมิจฉาชีพ