ทั่วโลกสูญหมื่นล้าน! บุกคอนโด-บ้านหรู 10 จุด ลุยแก๊งจีนหลอกข้ามชาติ

ทั่วโลกสูญหมื่นล้าน! บุกคอนโด-บ้านหรู 10 จุด ลุยแก๊งจีนหลอกข้ามชาติ

 เปิดปฏิบัติการล่าข้ามโลก ราชาคริปโทฯ Ep:2 บุกเข้าค้น 10 จุด ทั้งกรุงเทพ สมุทรปราการ และชลบุรี ตรวจค้นคอนโดมิเนียมหรู ย่านสาทร มูลค่ากว่า 128 ล้าน และบ้านพัก ราคากว่า 80 ล้านบาท ของผู้ต้องหาแก๊งจีน ขบวนการหลอกลงทุนข้ามชาติ มีผู้เสียหายทั่วโลก มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท

 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นำกำลังเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโทฯ Ep:2 ปิดล้อมตรวจค้น 10 จุด ประกอบด้วย ในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา 7 จุด, สาทร 1 จุด, จ.สมุทรปราการ 1 จุด และ อ.พัทยา จ.ชลบุรี 1 จุด เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

โดยจุดสำคัญคือการเข้าตรวจค้นห้องชุดชั้น 37 มูลค่า 128 ล้านบาท ภายในคอนโดหรูย่านสาทร ซึ่งห้องดังกล่าวมีการตกแต่งบิ้วอินสุดหรู โดยพบว่าห้องดังกล่าวเป็นของ นายอาบิน เย่ สามีของ นางเคอ ยี เย่ หรือ คี ยี เย่ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน ที่ถูกจับกุมไว้ก่อนหน้านี้

ทั่วโลกสูญหมื่นล้าน! บุกคอนโด-บ้านหรู 10 จุด ลุยแก๊งจีนหลอกข้ามชาติ

ซึ่งทางนายอาบิน เย่ คือผู้ต้องหาตามหมายแดงของตำรวจสากล ในความผิดฉ้อโกงประชาชน ที่ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการตัวหลังก่อเหตุหลอกคนจีนสูญเงินมากกว่า 180 ล้านหยวน หรือมากกว่า 900 ล้านบาท เบื้องต้นพบพยานเอกสารจำนวนมาก และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ถูกทิ้งไว้ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

นอกจากนี้ ในจุดอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านหรูหลังละ 60-80 ล้านบาท รวมทั้งในส่วนที่ จ.สมุทรปราการ และจ.ชลบุรี ซึ่งในทางสืบสวนพบว่า ถูกซื้อในนามนิติบุคคลของกลุ่มทุนจีน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดอายัดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกสูญหมื่นล้าน! บุกคอนโด-บ้านหรู 10 จุด ลุยแก๊งจีนหลอกข้ามชาติ

รายงานข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ Ep:1 โดยครั้งนั้น บช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และ นางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน

หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือ สินทรัพย์ต่าง ๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่ สน.ศาลาแดง, สน.โชคชัย และ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการปฏิบัติทางตำรวจไซเบอร์จะแถลงในเวลา 13.00 น. ที่บช.สอท.ต่อไป