Jay-Z จากเด็กยากไร้ สู่แร็ปเปอร์พันล้าน ที่ ‘บัฟเฟตต์’ แนะให้ดูเป็นแบบอย่าง

Jay-Z จากเด็กยากไร้ สู่แร็ปเปอร์พันล้าน ที่ ‘บัฟเฟตต์’ แนะให้ดูเป็นแบบอย่าง

เจย์ซี (Jay-Z) นักร้องเพลงแร็ปชื่อดัง จากเด็กยากไร้สู่มหาเศรษฐีระดับพันล้าน ที่ขนาด วอร์เรน บัฟเฟตต์ยังแนะนำให้ดูเป็นแบบอย่าง อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ ที่แม้จะดังเพราะเพลง แต่รวยด้วยอย่างอื่น!

Key Points

  • ปีที่แล้วเจย์ซีมีความมั่งคั่งที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ในปัจจุบันเขามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์
  • ฟอร์บสระบุว่า “ต่อให้ใน 1 ปี เจย์ซีไม่มีทัวร์คอนเสิร์ต หรือปล่อยอัลบั้มออกมาขาย เจย์ซีก็สามารถทำเงินหลายล้านได้จากเงินลงทุนของเขาในบริษัทแชมเปญ
  • เจย์ซี มองว่า “มันเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ในวงการเพลงที่โน้มน้าวศิลปินให้เชื่อว่า พวกคุณไม่สามารถร่ำรวยได้”


เจย์ซี (Jay-Z) นักร้องเพลงแนวแร็ป สัญชาติอเมริกัน ผู้ขึ้นสู่ มหาเศรษฐีพันล้านคนแรกในวงการฮิปฮอป โดยในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปีหลังจากนั้น ความมั่งคั่งของเขาก็ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง

เขาผู้นี้ยังเป็นผู้ที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังระดับโลก แนะนำต่อคนทั่วไปว่า “ควรเรียนรู้จากความสำเร็จของเขา”

 

Jay-Z จากเด็กยากไร้ สู่แร็ปเปอร์พันล้าน ที่ ‘บัฟเฟตต์’ แนะให้ดูเป็นแบบอย่าง

 

ข้อมูลจากนิตยสารฟอร์บสรายงานว่า ปีที่แล้วเขามีความมั่งคั่งที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ในปัจจุบัน เขามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดยเมื่อปี 2562 เจย์ซีได้กลายเป็นมหาเศรษฐีแร็ปเปอร์พันล้านดอลลาร์คนแรก

 

  • ช่วงแรกของชีวิตเจย์ซี

ประวัติโดยสังเขป ก่อนจะครองทรัพย์สินมหาศาลอย่างปัจจุบัน  “เจย์ซี” เกิดในปี 2512 และเติบโตที่ย่านบรูคลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ บริเวณที่เขาเติบโตเป็นที่อยู่อาศัยสาธารณะจากรัฐบาลที่ชื่อ “Marcy Houses” ในละแวกเบดฟอร์ด–สไตเวสซันต์ (Bedford-Stuyvesant) ของบรูคลิน ซึ่งในสมัยนั้นเป็นย่านคนยากไร้ และเกิดอาชญากรรมสูง

เจย์ซีมีความชื่นชอบในดนตรีแนวแร็ปเปอร์มาตั้งแต่วัยเด็ก เขาจึงแต่งทำนองและเนื้อร้องเพลงแร็ปขึ้นมาเอง

 

  • ก่อตั้งบริษัทเพลงของตัวเองร่วมกับเพื่อน

หลังจากนั้น เมื่อปี 2537 เขาก็ตั้งบริษัทเพลงร่วมกับเพื่อนในชื่อบริษัท Roc-A-Fella Records เพื่อทำเพลงแร็ปขึ้นมา 

ผลงานอัลบั้มเพลงที่ประสบความสำเร็จของเจย์ซี คือ "The Blueprint" ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2544 โดยเพียงสัปดาห์แรกก็ถูกขายมากถึง 420,000 อัลบั้ม

อีกตัวอย่างความสำเร็จ คือ อัลบั้ม “The College Dropout” ซึ่งวางจำหน่ายในปี 2547 ของคานเย่ เวสต์ (Kanye West) นักร้องแนวแร็ปของบริษัท ยอดขายพุ่งทะลุ 3 ล้านอัลบั้ม

 

  • เข้าสู่โลกแห่งการลงทุน

รายได้จากการขายเพลงดังกล่าว ก็นำมา “ลงทุน” ในบริษัทต่าง ๆ จนร่ำรวยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบริษัทผลิตแชมเปญอย่าง Armand de Brignac และ D’Usse cognac ซึ่งเมื่อปี 2562 หุ้นของบริษัทผลิตแชมเปญดังกล่าวที่เขาถือมีมูลค่ามากกว่า 400 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เจย์ซีก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแร็ปเปอร์ระดับพันล้านคนแรก

นอกจากนี้ เขายังลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งทั้งในเมืองลอสแอนเจลิส และนครนิวยอร์ก

ส่วนสำคัญที่ทำให้ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์ จากเมื่อปีที่แล้วที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์ได้มาจาก

ข้อแรกคือ การเติบโตของบริษัทด้านความบันเทิง Roc Nation ที่เขาเป็นเจ้าของ

ข้อสอง มาจากการขายบริษัท Tidal บริการสตรีมมิงดนตรีระดับโลกของเขาเมื่อปี 2564 ให้กับบริษัท Square ผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลของแจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) โดยแจ็คได้ซื้อหุ้นบริษัท Tidal ต่อจากเขาในสัดส่วน 80% ด้วยจำนวนเงิน 297 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ เจย์ซียังลงทุนในบริษัทให้บริการแท็กซี่อย่าง Uber ด้วย

รายงานนิตยสารฟอร์บสยังระบุว่า “ต่อให้ใน 1 ปี เจย์ซีไม่มีทัวร์คอนเสิร์ต หรือออกอัลบั้มจำหน่ายเลย เขาก็ยังสามารถทำเงินหลายล้านได้จากเงินลงทุนของเขาในบริษัทแชมเปญ Armand de Brignac champagne และ D’Usse cognac”

ความมั่งคั่งของเขา ทำให้เจย์ซีกลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดเป็นอันดับที่ 1,210 ของโลก

 

Jay-Z จากเด็กยากไร้ สู่แร็ปเปอร์พันล้าน ที่ ‘บัฟเฟตต์’ แนะให้ดูเป็นแบบอย่าง

 

  • เจย์ซีสนทนาสาระกับบัฟเฟตต์

ในปี 2553 เมื่อเขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บสร่วมกับบัฟเฟตต์ ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบ 10 ปีที่แล้วก่อนที่เขาจะกลายเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน

เจย์ซีเปรียบแนวการลงทุนของบัฟเฟตต์ที่เลือกลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองเข้าใจ มากกว่าการตามกระแสว่า คล้ายกับตัวเขาที่ชื่นชอบและเข้าใจในธุรกิจดนตรีของตัวเอง

เจย์ซีได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ดนตรีก็เปรียบเหมือนหุ้น ซึ่งก็มีจังหวะที่ร้อนแรง”

“ผู้คนมักตัดสินใจด้วยพื้นฐานของอารมณ์ พวกเขาไม่อยู่ในขอบเขตที่พวกเขารู้”

ปัจจุบัน นักแร็ปเปอร์วัย 53 ปีผู้นี้ ก็มีเป้าหมายในชีวิตที่ต้องการทำเงินจากการลงทุน ลบล้างภาพจำครั้งทศวรรษ 90 ที่เชื่อกันว่านักดนตรีไม่ควรทะเยอทะยานเพื่อความร่ำรวย

เจย์ซี กล่าวเสริมว่า “มันเป็นการหลอกลวงครั้งใหญ่ที่สุดในวงการเพลงที่โน้มน้าวศิลปินให้เชื่อว่า พวกคุณไม่สามารถร่ำรวยได้”

“ฮิปฮอปแต่เดิมนั้นเต็มไปด้วยแรงทะเยอทะยานเสมอ และคอยปลดแอกความเชื่อที่ว่า ศิลปินไม่สามารถคิดถึงเงินได้”

เมื่อบทให้สัมภาษณ์ของทั้งสองเสร็จสิ้น บัฟเฟตต์ก็แนะนำคนหนุ่มสาวว่า ในไม่ช้า คนหนุ่มสาวจะมองหาเจย์ซีสำหรับคำแนะนำด้านการทำเงินของเขา

บัฟเฟตต์กล่าวว่า “เจย์กำลังสอนผู้คนในห้องเรียนที่ใหญ่กว่าที่ผมเคยสอน” ซึ่งอาจสื่อถึงประสบการณ์ด้านการสอนของเจย์อาจกว้างขวาง และเข้าถึงคนรุ่นใหม่ง่ายกว่าบัฟเฟตต์

บัฟเฟตต์กล่าวเสริมอีกว่า “สำหรับวัยหนุ่มสาวที่กำลังเติบโต ควรเรียนรู้จากความสำเร็จของเขา”

 

อ้างอิง: cnbc cnbc(2) rockthebells billboard