แสงสว่างโลกลงทุน ฉายโอกาสชัด ‘3 ตลาดหุ้นเอเชีย’ ฝ่าปมใหญ่ในซีกโลกตะวันตก

แสงสว่างโลกลงทุน ฉายโอกาสชัด ‘3 ตลาดหุ้นเอเชีย’ ฝ่าปมใหญ่ในซีกโลกตะวันตก

ปมใหญ่ซีกโลกตะวันตกยังไม่สะเด็ดน้ำและยากจะคาดเดา แต่ IMF จับชีพจร "เศรษฐกิจหุ้นเอเชียสดใสกว่าตะวันตก"  "บลจ.จิตตะ เวลธ์" แนะ 3ตลาดหุ้นเอเชีย จีน-เวียดนาม-ญี่ปุ่น เป็น Safe Haven พร้อมวางกลยุทธ์ตามสไตล์สายVI เห็นโอกาสการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่าคนอื่นได้  

Key Points : 

  • IMF จับชีพจร "เศรษฐกิจหุ้นเอเชียสดใสกว่าตะวันตก"  แม้ปมใหญ่ซีกโลกตะวันตกยังไม่สะเด็ดน้ำและยากจะคาดเดาว่าแสงสว่างปลายอุโมงค์จะเห็นได้ในปีนี้หรือไม่
  • ชูเรือธง "หุ้นจีน"  ชาว Wall Street ยังหลงเสน่ห์ หลังเปิดประเทศ ตลาดหุ้นมีแนวโน้มบวก ค่าเงินหยวนเริ่มมีเสถียรภาพ
  • ปีแห่งการพลิกฟื้นของ"หุ้นเวียดนาม" ราคาหุ้นถูก รอขึ้นแท่นตลาดเกิดใหม่ เศรษฐกิจโตยืนหนึ่งในอาเซียน
  • การผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุนสนับสนุน สตาร์ทอัปเติบโต และ  Warren Buffett มีโอกาสขยับสัดส่วนลงทุนเพิ่ม แรงส่ง "ตลาดหุ้นญี่ปุ่น"
  • "จิตตะ เวลธ์" มองหุ้นเอเชีย เป็น Safe Haven  แนะอย่ากลัววิกฤติ การวางกลยุทธ์ เลือกลงทุนหุ้นคุณภาพดี ราคาเหมาะสม เป็นหลักการของนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือสาย VI ที่ "Warren Buffett" ยิ่งเห็นโอกาสการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่าคนอื่นได้
     
     

หุ้นเอเชีย

ใกล้ผ่านพ้นไตรมาสแรกแล้วของปี2566 แล้ว บรรยากาศการลงทุนสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกยังคงผันผวน เพราะแรงฉุดหลักๆ ยังมาจากปมใหญ่ ที่ทั่วโลกวิตกกังวลต่อแบงก์ในสหรัฐและยุโรป ประสบปัญหาสภาพคล่อง อาจลามเป็นโดมิโน ของเศรษฐกิจ จากเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าธนาคารกลางจะเข้ามาหยุดทำให้นักลงทุนหยุดแพนิกถอนเงิน

และดูเหมือนว่าตลาดการลงทุนทั่วโลกยังมีความเปราะบาง จากนักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนหลากหลายวงในตลาด เห็นตรงกันว่า เหตุการณ์ในข่วงที่ผ่านมานี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ เศรฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือ Recession มากกว่านั้นกลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกหรือไม่ 

IMF จับชีพจรเศรษฐกิจ ‘เอเชียสดใสกว่าตะวันตก’
แน่นอนว่า ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ แต่ละเดือน และการประชุมเฟดเแต่ละครั้งมักปั่นป่วนตลาดลงทุนเป็นระลอกๆ ไม่ต่างจากปีที่แล้ว

ปมใหญ่ของซีกโลกตะวันตกยังไม่สะเด็ดน้ำและยากจะคาดเดาว่าแสงสว่างปลายอุโมงค์จะเห็นได้ในปีนี้หรือไม่ แต่ข้อมูลจาก IMF ตอกย้ำว่า แนวโน้มเศรษฐกิจฝั่งเอเชีย มีความสดใสกว่าฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปแน่นอน  

ถึงแม้ว่าปีนี้ โลกยังต้องเผชิญกับภาวะความผันผวนต่อเนื่องอีกปี จะเป็นปีที่เป็นโอกาสในการลงทุนที่สำคัญที่สุด 

หุ้นเอเชียน่าสนใจลงทุน ชูเรือธง ‘หุ้นจีน’

ตลาดหุ้นเอเชียที่ยังน่าสนใจมีตลาดไหนบ้าง "ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ เริ่มไล่เรียง 3 ตลาดหุ้นเอเชียที่ควนหาโอกาสเข้าลงทุนในปีนี้ ดังต่อไปนี้ 

เริ่มกันตั้งแต่ "ตลาดหุ้นจีน"  ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก ซึ่งล่าสุดชาว Wall Street หลงเสน่ห์ตลาดหุ้นจีน หลังจากที่จีนทำการเปิดประเทศ สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายมากขึ้น สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง Morgan Stanley และ Goldman Sachs ต่างก็มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ตลาดหุ้นจีนมีแนวโน้มเป็นบวก รวมไปถึงค่าเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพ

เหมือนว่าต่างชาติจะยังเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 ทุนนอกจะเข้าซื้อ A-Share มากถึง 300,000 ล้านหยวน แบบนี้ต้องเรียกว่า "ตลาดหุ้นจีนกำลังเนื้อหอม" ทำให้มีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าซื้อหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง

ด้าน China Industrial Securities ได้วิเคราะห์เหตุผลที่ทุนนอกไหลเข้าหุ้น A-Share ของจีนมากขึ้นดังนี้
 
-    มุมมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566 ที่เชื่อมั่นว่าจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง  หลังจากพี่ใหญ่อย่าง ‘ประเทศจีน’ ประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นปีนี้ แน่นอนว่าเรียกความเชื่อมั่นจากทั่วโลกกลับมาได้อีกครั้ง สร้างบรรยากาศความคึกคักคืนสู่ตลาดโลกที่รออานิสงส์อยู่

- เศรษฐกิจจีน ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เติบโต 5.2% จาก 4.4%ที่มองไว้ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 และคาดว่าในปี 2567 จะขยายตัว 4.5% โดยมองว่า การเปิดประเทศจีนจะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัว
 
-   การเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาเป็นไฮไลต์ในภูมิภาคนี้อีกครั้ง โดยเฉพาะการผ่อนคลายอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลต่อการควบคุมของรัฐบาล
 
-    รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และสนับสนุนธุรกิจแพลตฟอร์มมากขึ้น
 
หลังจากนี้ ยังต้องรอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลจีนจะสามารถนำพาประเทศเติบโตตามเป้าหมายได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ จีนถือเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจมากในปี 2566 นี้ 

ตลาดหุ้น ‘เวียดนาม’ รอขึ้นแท่นตลาดเกิดใหม่ เศรษฐกิจโตยืนหนึ่งในอาเซียน

ตามมาต่อกันที่ "ตลาดหุ้นเวียดนาม" ในช่วงปีที่ผ่านมาอาจจะเป็นปีที่มีแต่ข่าวร้ายในตลาดหุ้น สวนทางกับแนวโน้มเศรษฐกิจเวียดนามที่มีการขยายตัวค่อนข้างสูงทั้งจากภาคการบริโภค การส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

IMFได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม อยู่ที่ระดับ 6.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศในอาเซียน เติบโตยืนหนึ่งในอาเซียนเลยทีเดียว

"ตราวุทธิ์" มองว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นของตลาดหุ้นเวียดนาม ด้วยแรงส่งจากเศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง ทำให้คาดการณ์การเติบโตด้านกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนาม ปีนี้อยู่ที่ 12% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาแรงในปีที่ผ่านมา

จึงมองว่า มูลค่าหุ้น (Valuation) ยังมีราคาถูก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีโอกาสได้รับการปรับสถานะจากตลาดหุ้นชายขอบ (Frontier Market) ขึ้นสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้ ทำให้กองทุนต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ซึ่งหมายถึงเงินต่างชาติพร้อมหลั่งไหลเข้าลงทุนหุ้นเวียดนามอีกไม่นานแล้ว

ญี่ปุ่น ผ่อนคลายข้อจำกัดการลงทุน สนับสนุนสตาร์ทอัปเติบโต
สุดท้ายมาดู "ตลาดหุ้นญี่ปุ่น" ที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่น คาดการณ์ GDP ปีนี้ ขยายตัวเป็นบวก 1.1% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งของ GDP ญี่ปุ่น และภาคท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัวแรงตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก
 

นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการลงทุนใน ปีนี้ โดยเตรียมยกเลิกข้อจำกัดการลงทุนต่างประเทศของกองทุน Venture Captial (VC) เพื่อสนับสนุนการเติบโตของสตาร์ทอัป การยกเลิกข้อจำกัดนี้จะช่วยให้กองทุนดังกล่าว จะมีความยืดหยุ่นในการเลือกลงทุนรวมไปถึงกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ เข้าไปสู่กองทุนลักษณะดังกล่าวของญี่ปุ่นด้วย

"ตราวุทธิ์" ให้เหตุผลว่า การยกเลิกมาตรการดังกล่าวจะใช้กับนักลงทุนประเภท Limited Partnership ซึ่งนักลงทุนประเภทนี้จะรับความเสี่ยงเฉพาะส่วนที่ตนเองลงทุนเท่านั้น ส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และยังเป็นการช่วยกองทุน VC ของญี่ปุ่นให้สามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น สร้างโอกาสในการลงทุนและดึงดูดเม็ดเงินมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อสตาร์ทอัปในญี่ปุ่น ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งให้รัฐสภาพิจารณาในปี 2567

อีกด้านที่เห็นรัฐบาลญี่ปุ่นเร่งดำเนินการ นั่นคือ การเร่งพัฒนาไซเบอร์ซีเคียวริตี้ หลังถูกแฮกเกอร์โจมตีทางไซเบอร์ในองค์กรมากขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นยังล้าหลังในด้านนี้เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ

โดยสำนักข่าว Nikkei รายงานว่ามีพนักงานด้านไอทีของญี่ปุ่นเพียง 34% เท่านั้นที่สามารถตรวจสอบความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่มีถึง 42% ซึ่งเคสถูกโจมตีต่อวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 และในปี 2565 ที่ผ่านมามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตมากถึง 7,800 เคสต่อวัน เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2562 ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มสร้างระบบเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ หลังจากได้ร่างยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเสริมการป้องกันภัยทางไซเบอร์ของประเทศแล้ว
 
ปัจจุบันในยุค Digital Transformation มีการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลายประเทศยังไม่ค่อยตื่นตัวกับการโจมตีนี้ อุตสาหกรรมไซเบอร์ซีเคียวริตียังมีช่องว่างอีกมากให้เติบโต เพื่อช่วยเหลือองค์กรในแต่ละประเทศป้องกันการโจมตีเหล่านี้ได้
 
" นักลงทุนมองเห็นความน่าสนใจของตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นมาบ้างแล้วหรือไม่  ขณะที่ปีที่แล้ว นักลงทุนระดับโลก ‘Warren Buffett’ ได้เข้าไป ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นเพิ่ม แม้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตต่ำ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ได้ลงทุนหุ้นบริษัทญี่ปุ่นจำนวน 5 ตัวมานานแล้ว โดยถือหุ้นแต่ละตัวราว 5% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วของบริษัท แต่ดูเหมือนว่า Berkshire Hathaway ได้ลงทุนหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในแต่ละตัวสัดส่วนมากกว่า 6% ซึ่งการขยับเพิ่มสัดส่วนดังกล่าว ทำให้ตลาดมองว่า ‘Warren Buffett’ มองเห็นโอกาสการลงทุนที่ดีจึงได้ทุ่มเงินลงทุนเพิ่มได้" 

"จิตตะ เวลธ์" แนะเลือก "หุ้นคุณภาพดี ราคาเหมาะสม"
การลงทุนในหุ้นเอเชีย เป็น Safe Haven ยิ่งปีนี้ ฟ้าเปิดแล้ว ขอเพียง"อย่ากลัววิกฤต"  เพราะทุกๆ วิกฤต ย่อมมีโอกาส ขอเพียงให้คุณทำการบ้าน ยิ่งมากเท่าไหร่ จะยิ่งเห็นโอกาสการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากกว่าคนอื่นได้
 
ที่สำคัญ การวางกลยุทธ์ การลงทุนให้ถูกหลักการลงทุน เลือก "หุ้นคุณภาพดี ราคาเหมาะสม" ซึ่งเป็นหลักการของนักลงทุนเน้นคุณค่า หรือสาย VI ที่ ‘Warren Buffett’ ใช้มาอย่างยาวนานในตลอดชีวิตนักลงทุนของเขา ซึ่งโดยส่วนตัวก็เดินตามรอยสาย VI นี้เช่นกัน