BDMS-BH ดาวเด่นหุ้นรพ. ป้องกันแรงกระแทกวิกฤต 'แบงก์ล้ม'

BDMS-BH ดาวเด่นหุ้นรพ. ป้องกันแรงกระแทกวิกฤต 'แบงก์ล้ม'

ความปั่นป่วนจากวิกฤตภาคธนาคารที่ตอนนี้ได้ขยายวงจากสหรัฐเข้าสู่ยุโรป กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งโลก โดยเฉพาะกรณีล่าสุดหลังมีข่าวว่า “เครดิตสวิส” หนึ่งในธนาคารที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง จนอาจทำให้ธนาคารไปต่อไม่ไหว?

แน่นอนว่าหาก เครดิตสวิส ต้องปิดตัวลงจริงๆ สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่ากรณี 3 แบงก์ในสหรัฐหลายเท่าตัว เนื่องจากเครดิตสวิส ถือเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจ หรือพูดง่ายๆ ว่า “ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” จึงไม่แปลกที่ธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์จะรีบเข้ามาอุ้ม

อย่างไรก็ตาม พายุคงไม่สงบง่ายๆ ยังมีอีกหลายธนาคารที่สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดี อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง มีโอกาสกลายเป็นโดมิโนตัวใหม่ที่จะล้มตามมา ทำให้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้เต็มไม่ด้วยความผันผวนและไม่แน่นอน

การเลือกหุ้นเข้าลงทุนจึงต้องเฟ้นเป็นพิเศษ เน้นหุ้น Defensive ที่ทนทานกับความผันผวนของตลาดและแรงกระแทกจากวิกฤต Bank Run ซึ่งหนึ่งกลุ่มที่ดูแล้วเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ คือ “กลุ่มโรงพยาบาล” ซึ่งแนวโน้มธุรกิจปีนี้น่าจะไปได้สวยตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

 

อย่างกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่ทำการนัดหมายเข้ามารักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 15,000 คน เทียบกับช่วงปี 2565 เดือน ก.พ. ที่ 789 คน, มิ.ย. 3,994 คน และเดือน ต.ค. อยู่ที่ 12,630 คน ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มซีแอลเอ็มวี ตะวันออกกลาง และยุโรป

โดยบริษัทระบุว่า รายได้ในช่วง 2 เดือนแรกปี 2566 เติบโต 6% YoY โดยรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเติบโตถึง 40% ช่วยชดเชยรายได้จากผู้ป่วยในประเทศที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีก่อน หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเกิน 30% กลับมาเท่ากับช่วงก่อนที่จะเกิดโรคระบาด

ส่วนบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH เป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่มีรายได้หลักมาจากต่างชาติ ทางผู้บริหารระบุว่าแนวโน้มผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตะวันออกกลาง ซึ่งมีตลาดใหม่ๆ เข้ามาทั้งโอมานและซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งกลุ่มจีนที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ ส่งผลให้รายได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้จะโต 8% 

 

 

BDMS-BH ดาวเด่นหุ้นรพ. ป้องกันแรงกระแทกวิกฤต 'แบงก์ล้ม'

 

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า มีมุมมองบวกต่อการเติบโตของ BDMS ในปี 2566 คาดกำไรปกติที่ 13,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY โดยฝ่ายวิจัยมองว่าจะยังเป็นการเติบโตจากกลุ่มคนไข้ปกติ ซึ่งมาจาก Pent up demand และจะรับผลบวกเต็มปีจากการฟื้นตัวของคนไข้ต่างชาติ หลังจากที่มีการเปิดประเทศ คาดสัดส่วนคนไข้ต่างชาติจะปรับเพิ่มจากเฉลี่ย 23% ในปี 2565 เป็น 33%ใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ บริษัทให้เป้าหมายรายได้ 3 ปีข้างหน้า (2566-2568) เติบโตเฉลี่ย 6-8% ต่อปี เป็นการเติบโตจาก

1. Organic Growth จากการเติบโตทั้งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และผลของ Intensity (รายได้ต่อหัวที่สูงขึ้นจากการรักษาโรคที่ซับซ้อน

2. กลยุทธ์ทางธุรกิจโดยมีแผนเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ ด้วยการขยายฐานลูกค้า Wellness & Residence สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จากโครงการ BDMS Silver Wellness & Residence รวมถึงเริ่มส่งเสริมในส่วนของ Health Technology รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

3. คาดจำนวนเตียงจดทะเบียนจะเพิ่มจากปี 2565 ที่ราว 8,500 เตียง เป็น 9,000 เตียง

 

ด้าน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรสุทธิ BH ปี 2566 ที่ 5,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ ปี 2567 ที่ 5,736 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY รับปัจจัยหนุนหลังรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มโควต้านักท่องเที่ยวซาอุฯ ที่เดินทางมาไทยเป็น 100,000 –150,000 คน จากเดิม 30,000 คน

นอกจากนี้บริษัทกำลังขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเวียดนามและโอมานมากขึ้น และในระยะยาวจะไดรับประโยชน์จากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็น Medical Hub Center