SVB ล้ม ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยลำบาก

SVB ล้ม ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยลำบาก

วิกฤติธนาคารซิลิคอนวัลเลย์เมื่อสัปดาห์ก่อน อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐยุติการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

Key points:

  •  คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ตัดสินใจเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 22 มี.ค.
  •  การปิดธนาคารซิลลิคอนวัลเลย์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ในนิวยอร์ก ทำให้ FOMC ตกที่นั่งลำบาก
  •  เทรดเดอร์หลายรายหวังให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% บางรายแต่น้อยมากคิดว่ารอบนี้เฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย 

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน บรรดาเทรดเดอร์และนักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือเงินเฟ้อตอนนี้เริ่มลดคาดการณ์ บางคนบอกว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์หน้าเนื่องจากปัญหาในภาคธนาคาร

การปิดธนาคารซิลลิคอนวัลเลย์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ในนิวยอร์ก เป็นการล้มของธนาคารครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกปี 2551 ส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ตกอยู่ในสถานะลำบากขณะพยายามจัดการเงินเฟ้อสูงเกินเป้าและข้อมูลเศรษฐกิจร้อนแรงโดยไม่เพิ่มความปั่นป่วนให้กับหุ้นแบงก์บางตัว

ตอนนี้นักวิเคราะห์จากโกลด์แมนแซคส์และเวลส์ฟาร์โก คาดว่าเฟดจะยุติวงจรขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 22 มี.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากเจพีมอร์แกนและออกซ์ฟอร์ดอีโคโนมิกมองว่า เอฟโอเอ็มซีจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราลดลงที่ 0.25%

ลดการลุกลาม

ช่วงสุดสัปดาห์หน่วยงานการเงินระดับท็อปของสหรัฐเผยชุดมาตรการจำนวนมากหวังฟื้นฟูความเชื่อมั่นในภาคธนาคารและสยบความปั่นป่วนในตลาด

กระทรวงการคลัง เฟด และบรรษัทรับประกันเงินฝากรัฐบาลกลาง (FDIC) ต่างกำหนดแผน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า SVB ว่าจะสามารถเข้าถึงเงินฝากทั้งหมดได้ ซิกเนเจอร์แบงก์ก็เช่นกัน

นอกจากนี้เฟดยังออกเครื่องมือกู้ยืมชุดใหม่ให้ธนาคาร เพื่อพยายามและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุล้มซ้ำรอย SVB ที่รายงานการเงินย่ำแย่ทำให้ลูกค้าวิตกกังวลจนแห่ถอนเงินออกอย่างรวดเร็ว ส่งผลธนาคารเกิดวิกฤติสภาพคล่อง

แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ (13 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า แม้สหรัฐเคลื่อนไหวปกป้องเงินฝากลูกค้า ก็จะไม่อุ้มนักลงทุน SVB

“พวกเขารู้ว่ามีความเสี่ยง และเมื่อเสี่ยงแล้วไม่ได้ นักลงทุนก็ต้องเสียเงินไป ทุนนิยมก็เป็นแบบนี้” ไบเดนกล่าว

สถานการณ์ไม่แน่นอน

คำประกาศเมื่อวันอาทิตย์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดเงิน แนสแดคปิดบวก 0.45% ในวันจันทร์ (13 มี.ค.) แต่นักลงทุนยังคงเมินหุ้นธนาคาร นักวิเคราะห์กังวลกลัวความเสียหายจาก SVB ขยายวง

“การเร่งกระชับเงื่อนไขการเงินควบคู่กับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ทำให้เราต้องพึ่งเอฟโอเอ็มซีหยุดเร่งขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 22 มี.ค.” นักเศรษฐศาสตร์เวลส์ฟาร์โก กล่าวในรายงานถึงนักลงทุน

หลายคนหวังให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เช่น ไมเคิล เฟโรลี จากเจพีมอร์แกน กล่าวว่า เฟดควรจัดการกับทั้งตลาดการเงินไม่แน่นอนและเงินเฟ้อเหนือเป้า

“หากพวกเขาใช้เครื่องมือที่เหมาะสมแก้ความเสี่ยงทางการเงินลุกลาม (เวลาจะบอกเอง) เมื่อนั้นพวกเขาก็สามารถใช้เครื่องมือที่เหมาะสมแก้ความเสี่ยงเงินเฟ้อได้ต่อไปเช่นกัน ด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย” เฟโรลีรายงานลูกค้าเมื่อวันอาทิตย์

พลิกผันหวุดหวิด

เพิ่งจะวันพฤหัสบดี (9 มี.ค) นี่เอง เทรดเดอร์ฟิวเจอร์คาดการณ์ว่า การขึ้นดอกเบี้ย 0.50% จะกลับมาอีก หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวเมื่อวันพุธ (8 มี.ค.) ว่าธนาคารกลางสหรัฐเตรียมการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันเงินเฟ้อ “เป็นวงกว้าง”

แต่การล้มลงของ SVB ไม่กี่วันหลังจากนั้นทำให้เทรดเดอร์คิดใหม่ เมื่อวันจันทร์ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าเดิมลดลงเหลือศูนย์ เทรดเดอร์ฟิวเจอร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขึ้นในอัตราลดลง ส่วนน้อยคาดว่าไม่ขึ้นเลย

จอห์น คานาวัน หัวหน้านักวิเคราะห์ออกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิก ระบุในรายงานถึงลูกค้าเมื่อวันจันทร์ว่า ความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อเสถียรภาพของตลาดเงินสหรัฐหมายความว่า เป็นไปได้มากขึ้นอีกนิดที่สัปดาห์หน้าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เช่นเดียวกับนักเศรษฐศาสต์จากดอยท์ซแบงก์ แต่จะสรุปมุมมองอีกครั้งหลังจับตาพัฒนาการในสัปดาห์นี้