‘หุ้นแบงก์’ ร่วงกังวลวิกฤติ SVB โบรกฯ ชี้ภาพรวมผลกระทบยังเบา

‘หุ้นแบงก์’ ร่วงกังวลวิกฤติ SVB โบรกฯ ชี้ภาพรวมผลกระทบยังเบา

วันนี้ (13 มี.ค.) “หุ้นแบงก์” ร่วงยกแผง รับเซนติเมนต์เชิงลบ ปิด SVB ฟากโบรกฯ มองผลกระทบยังเบา แนะเป็นโอกาสเข้าซื้อสะสม

            ความเคลื่อนไหว “หุ้นแบงก์” ปรับตัวลดลงเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13 มี.ค.66) นำทีมโดยธนาคารกรุงเทพ (BBL) ลดลง 1.58% มาอยู่ที่ 155.50 บาท ลดลง 2.50 บาท ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ลดลง 2.94% มาอยู่ที่ 132 บาท ลดลง 4.00 บาท

           บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) ลดลง  1.95% มาอยู่ที่ 100.50 บาท ลดลง 2.00 บาท ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ลดลง 0.85% มาอยู่ที่ 29.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

            บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนิตี้ ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงช่วงเช้า มาจากความกังวลการปิดแบงก์สหรัฐ โดยมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในฝั่งสถาบันการเงินสหรัฐฯ ตอนนี้เป็นปัญหาทางด้านสภาพคล่องเป็นหลัก ซึ่งมีที่มาจากการสะสมของปัจจัยกดดันต่างๆ ทั้งการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด , การถอดถอนสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ภาวะ Earning contraction และภาวะขาลงของสินทรัพย์ Digital และ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ส่งผลให้เมื่อบริษัทที่เผชิญปัญหาเหล่านี้ต้องการสภาพคล่องแบบทันทีทันใด

ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาสภาพคล่องให้ก่อนหน้านี้จึงเตรียมการไม่ทัน และเมื่อต้องการเตรียมการก็เผชิญกับผลขาดทุนทางด้านราคาสินทรัพย์เข้าไปอีก จากการที่อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่สูงกว่าระดับในอดีต ส่งผลให้สถาบันการเงินเหล่านี้เผชิญกับวิกฤติสภาพคล่องแบบทันทีทันใด และทำให้ถูกสั่งปิดกิจการลงทันที

อย่างไรก็ตาม มองผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาทางด้านสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นหลัก ซึ่งถึงแม้ปัญหาแรกอาจยังต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ปัญหาที่สองดูเหมือนจะได้รับการเยียวยาในเชิงบวกบ้างแล้ว หลังจากล่าสุดทางการสหรัฐฯได้ทำตัวเป็น The last resort ออกมาตรการ Backstop เพื่อจัดหาสภาพคล่องฉุกเฉิน (Funding program) ให้กับธนาคารที่ประสบปัญหา และการันตีเงินฝากของผู้ฝากเงินทั้งในส่วนที่ได้รับความคุ้มครองและไม่ได้รับความคุ้มครอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ล่าสุดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหลายตอบรับเชิงบวกขึ้นได้บ้าง

สำหรับกลยุทธ์แนะถือครองหุ้นที่ได้เข้าสะสมไปที่บริเวณแนวรับดัชนีแรกของเราเดือนนี้ที่ 1,580-1,600 จุด มองหากราคาหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินของไทยปรับตัวลงจากความกังวลจากเหตุการณ์ในสหรัฐฯช่วงนี้ มองเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ (Buy on dip)