ค่าเงินบาทเปิดตลาด’อ่อนค่า’ที่ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

ค่าเงินบาทเปิดตลาด’อ่อนค่า’ที่ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

“กรุงไทย” ชี้เงินดอลลาร์ยังมีส่วนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยและผันผวนอ่อนค่าต่อเนื่อง ไร้ปัจจัยใหม่ ส่วนใหญ่เป็นไปตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หรือ แรงขายหุ้นไทยและบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 34.65-34.95บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (3 มี.ค.) ที่ระดับ 34.80 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.65-34.95 บาทต่อดอลลาร์ 

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การเคลื่อนไหวแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ยังมีส่วนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดก่อนหน้า ส่วนแนวโน้มเงินบาทในวันนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่าที่ชัดเจนในระยะสั้น ทำให้เงินบาทยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ หรือ แรงขายหุ้นไทยและบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ 

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ โดยเฉพาะหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสำคัญที่เรามองไว้ได้ เราคาดว่า เงินบาทอาจได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

อนึ่ง ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ (ให้นึกถึงความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตก่อนหน้า) ซึ่งหากดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่าคาด และดัชนีด้านราคาในภาคการบริการก็เร่งตัวขึ้นอีก เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงกังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงยาก และหนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเห็นเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง

ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนผ่านกรอบค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาซึ่งกว้างไม่น้อยกว่า 50 สตางค์ภายในวัน ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายอาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ โดยเฉพาะหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านสำคัญที่เรามองไว้ได้ เราคาดว่า เงินบาทอาจได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าบ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ

อนึ่ง ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ (ให้นึกถึงความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตก่อนหน้า) ซึ่งหากดัชนีดังกล่าวปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สูงกว่าคาด และดัชนีด้านราคาในภาคการบริการก็เร่งตัวขึ้นอีก เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจยังคงกังวลแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัวลงยาก และหนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด ซึ่งในกรณีดังกล่าวอาจเห็นเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง

ในช่วงนี้ จะเห็นได้ว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนผ่านกรอบค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาซึ่งกว้างไม่น้อยกว่า 50 สตางค์ภายในวัน ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายอาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน