มูลค่าหุ้น ‘อดานิ กรุ๊ป’ ดิ่ง 2.2 ล้านล้านบาท หลังเผชิญแรงขายหนักจากข่าวฉาว

มูลค่าหุ้น ‘อดานิ กรุ๊ป’ ดิ่ง  2.2 ล้านล้านบาท หลังเผชิญแรงขายหนักจากข่าวฉาว

ในช่วง 3 วันของการซื้อขายที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของอดานิ กรุ๊ป ลดลงกว่า 68,000 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ  2.229 ล้านล้านบาท ด้านหุ้นเรื่องธงที่ปรับตัวขึ้นอย่าง ADAN ราคายังต่ำกว่าฟลอร์

จากกรณีที่ ‘ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช’ บริษัทวิจัย และลงทุนสัญชาติอเมริกา ปล่อยเอกสารกล่าวหา โกตัม อดานิ มหาเศรษฐีชาวอินเดีย และเจ้าของ ‘อดานิ กรุ๊ป’ ว่าตกแต่งบัญชี ใช้บริษัทในต่างประเทศเพื่อฟอกเงิน และทุจริตทางภาษี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในหุ้นกลุ่มบริษัทดังกล่าวถดถอย จนกระทบตลาดหุ้นอินเดีย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในภาพกว้าง 

วันนี้ (31 ม.ค. 2566) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ในช่วง 3 วันของการซื้อขาย ที่ผ่านมา นักลงทุนพร้อมใจเทขายหุ้นของกลุ่มบริษัทในเครืออดานิ กรุ๊ป จนทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทดังกล่าวลดลงไปมากกว่า 68,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.229 ล้านล้านบาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนวันนี้ เวลา 11.15 น.) 

หนึ่งในหุ้นที่นักลงทุนเทขายมากที่สุดคือ หุ้นเรือธงของอดานิ กรุ๊ป ที่ โกตัม อดานิ หวังให้เป็นตัวช่วยดันมูลค่าความมั่งคั่งสุทธิของเขาให้อยู่ลำดับต้นๆ บนเวทีมหาเศรษฐีโลก

ตัวอย่างหุ้นเรื่อธงดังกล่าว เช่น ADAI ปรับตัวลดลง 65.20 ดอลลาร์ หรือ 3.78% ADAN ปรับตัวลง 11.75 ดอลลาร์ หรือ 4.99% หรือ ADAN ปรับตัวลดลง 96.15 ดอลลาร์ หรือ 8.17%  ทว่า ADEL กลับปรับตัวสูงขึ้น 42.15 ดอลลาร์ หรือ 1.48% (ข้อมูล ณ วันนี้ เวลา 11.20 น.) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่ง ระบุว่า แม้หุ้น ADAN จะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ราคาหุ้นดังกล่าวยังต่ำกว่าฟลอร์

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เน้นย้ำว่า รายงานของฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ไม่เพียงทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียลดน้อยลงเท่านั้น ทว่ายังกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ของสหรัฐด้วย 

โดยเมื่อวานนี้ (30 ม.ค. 2566) เวลา 16.27 น. ตามเวลาของนครมุมไบ ประเทศอินเดีย นักลงทุนสนใจเข้าซื้อหุ้น ADAN หรือ Adani Enterprises Ltd ซึ่งเป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวน  2%  ของหุ้นที่เสนอขาย (ออฟเฟอร์) ทั้งหมด 

อนึ่ง นักลงทุนในธุรกิจรีเทลสนใจเสนอซื้อ (บิด) 4%, พนักงานบริษัทเสนอซื้อ 12% โดยส่วนที่ไม่ใช่นักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงเหล่ามหาเศรษฐีสนใจซื้อ 1% ด้านนักลงทุนสถาบันเสนอซื้อ 4,576 หุ้น นับเป็นเพียงเสี้ยวเดียวของหุ้นที่เสนอขายจำนวน 12.8 ล้านหุ้น