‘ทีดีอาร์ไอ’ชี้คนไทยออมเงินต่ำ พบ‘เล่นพนัน’มากกว่า‘ลงทุน’

‘ทีดีอาร์ไอ’ชี้คนไทยออมเงินต่ำ  พบ‘เล่นพนัน’มากกว่า‘ลงทุน’

‘ทีดีอาร์ไอ’ พบสังคมสูงวัยกำลังมาถึง แต่ความพร้อมคนไทยยังต่ำ ชี้เงินออมถูกดูดเข้าสู่ เส้นทาง ‘การพนัน’ มากกว่า ‘ลงทุน’ พร้อมเปิดแนวทางพัฒนาเส้นทางการลงทุน ปรับโครงสร้าง ‘ผู้ออม-ธุรกิจ-ตัวกลาง-ภาครัฐ’ อย่างเป็นระบบและเท่าเทียม ดัน ‘นักลงทุนVI’ หนุนเทรดหุ้นไร้ค่าฟี

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ได้สำรวจการเตรียมความพร้อมด้านการออมของคนไทย ซึ่งพบว่า คนอายุ 20-30 ปี มองว่าเมื่อถึงวัยเกษียณต้องการเงินใช้ต่อเดือนเพียง 20,000-30,000 บาท แต่ถ้าสอบถามคนอายุ 40-50 ปี กลับพบว่าความต้องการเงินใช้ต่อเดือนจะเพิ่มเป็นเดือนละ 50,000 บาท ในขณะที่คนอายุ 60 ปี ยังคงต้องการทำงานต่อไป สะท้อนได้ว่า สังคมสูงวัยกำลังมาถึง แต่คนไทยเตรียมพร้อมต่ำ

ขณะเดียวกันปัจจุบัน การสร้างเงินออมของคนไทย กลับมาเจอทาง 2 แพร่ง คือ “ เส้นทางการพนัน” มีคนไทยเล่นการพนันถึง 32 ล้านคน มีนักพนันหน้าใหม่เกิดขึ้นประมาณปีละ 800,000 คน การเติบโตของนักพนันเกิดขึ้นมากในกลุ่มการพนันออนไลน์ เนื่องจากสะดวก ง่าย เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา เฉพาะในบ่อนออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนกว่า 100,000 ล้านบาท โดยมีนักพนันราว 2 ล้านคน

ส่วนอีกเส้นทาง คือ “เส้นทางการลงทุน”  กลับมีนักลงทุนเปิดบัญชีเพียง 2-3 ล้านราย(ไม่นับซ้ำ) สมาชิกกองทุนต่างๆ 17-20 ล้านราย ลูกค้าที่ Active ซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต 400,000-600,000 คน มีมูลค่าเงินหมุนเวียน ประมาณ 1-1.5 ล้านล้านบาท

นี่เป็นโจทย์สำคัญของประเทศไทย ที่ต้องมีการพัฒนา ก้าวสู่ “การมีบริการทางการเงินที่เท่าเทียม” โดยในงานเปิดตัวแพลตฟอร์มเทรดหุ้นไร้ค่าธรรมเนียม โดยบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้เชิญนักวิชาการและนักลงทุนเน้นมูลค่ามาพูดคุยถึงการแก้โจทย์ดังกล่าว 

“นณริฏ พิศลยบุตร” นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การพัฒนาเส้นทางการลงทุน ต้องปรับโครงสร้าง ทั้งในฝั่งผู้ออม  ต้องได้รับการปลูกฝังปัญหาลัทธิการบริโภคนิยม ความสำคัญของการออม และความรู้ด้านความเสี่ยงจากการลงทุน

ขณะที่ฝั่งภาคธุรกิจ  ต้องมีผลิตภัณฑ์การออมที่หลากลาย ( Variety of product)  ทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยง มีผลิตภัณฑ์ต่างประเทศ อีกทั้ง ต้องมีผลิตภัณฑ์การออมแบบคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย (Value for Money)  

ฝั่งตัวกลาง มี 2 ประเภท คือ 1. ตัวกลางประเภท transaction เน้นค่าฟีถูก หรือไม่มีค่าฟี  และ2. ตัวกลางประเกทข้อมูล เน้นมีบทวิเคราะห์ และมีค่าฟีได้  มีประสิทธิภาพก มีกองทุนผ่านการแข่งขัน และผู้บริหารระดับโลก 

“การเข้ามาของธุรกิจบล.ไร้ค่าธรรมเนียมเทรดหุ้น มองว่า ก็ไม่ได้มาดิสรับ ธุรกิจ บล. ดั่งเดิม แต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อมีทางเลือก ตัวกลางไร้ค่าคอมเกิดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่านักลงทุนจะใช้โอกาสนี้หรือไม่”

 ขณะที่ภาครัฐ ต้องมองภาพอย่างเป็นระบบทั้งเรื่องหวย กับ หุ้น  ต้องใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือสร้างการลงทุนเพื่อการออม  ขณะที่มองการเก็บภาษีขายหุ้น เป็นการทำลายสภาพคล่องของตลาดทุน ไม่ถอนขนห่านทองคำ แต่ควรใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งให้กับคนไทย มีเงินออมเตรียมพร้อมสู่วัยเกษียณ

 “นณริฏ” กล่าวอีกว่า   “ธุรกิจหลักทรัพย์” มีความสำคัญมาก และยิ่งไม่มีค่าธรรมเนียม จะช่วยดึงคนเข้าสู่เส้นทางการลงทุนได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เป็นการคนไทยเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัยได้ และยังช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ไม่ให้คนเอาเงินออมไปใช้ในเส้นทางการพนัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่บ่อนพนันออนไลน์และกลุ่มเยาวชน

“เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ” นายกสมาคมนักลงทุน เน้นคุณค่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงทุนแนวใหม่สำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า คือ นักลงทุนที่เติบโตไปพร้อมกับตลาดทุน ด้วยการมีข้อมูลและมีความรู้การลงทุนของคนที่มีประสบการณ์ ทำให้สามารถตัดสินใจลงทุนได้ด้วยตัวเองอย่างถูกวิธี

เมื่อสามารถเทรดหุ้นโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมมองว่า เป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุน ที่เปิดโอกาสให้กับคนหมู่มาก อีกเป็นสิบล้านๆคน เดินเข้าสู่เส้นทางการลงทุนในตลาดทุนไทยได้อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ย่อมส่งผลดีต่อทั้งอุตสาหกรรมที่จะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และจะยิ่งเป็นตัวทวีคูณสร้างการเติบโตให้กับประเทศไทยในระยะข้างหน้า

"นักลงทุนรายย่อยที่มีความรู้และประสบการณ์ลงทุนอยู่แล้ว น่าจะชอบการเทรดหุ้นเสรีไร้ค่าคอมฯ ขณะที่คนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่เคยรู้จักตลาดหุ้นมาก่อน มีโอกาสตัดสินใจเข้ามามากขึ้นแต่ธุรกิจบล. ก็ต้องมีการส่งข้อมูลการลงทุนให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรม ระหว่างนักลงทุนรายใหญ่และรายย่อยด้วย”

ขณะที่การเก็บภาษีขายหุ้น ยังมองว่า “เป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย” ควรเก็บให้ถูกที่ เพราะปัจจุบันตลาดทุนไทยเป็นเครื่องมือทำให้เกิดธุรกรรมนอกระบบลดลง บริษัทดีๆสามารถเข้ามาอยู่ในระบบ คือ ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ อย่างปีนี้มียื่นไฟลิ่งเป็นร้อยบริษัท บริษัทต่างๆสร้างการเติบโตได้เพิ่มขึ้น มีการจ่ายภาษีอย่างถูกต้องและมากขึ้น ทำให้ภาครัฐสามารถเก็บภาษีอื่นๆได้มากกว่าเก็บภาษีขายหุ้น อีกทั้งมองว่า การเก็บภาษีขายหุ้น เหมือนเก็บเล็กเก็บน้อย ยิ่งทำให้เสียเซ็นทริเม้นท์การลงทุนไปอีก

คำแนะนำ สำหรับการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ให้นักลงทุนยืนระยะและประสบความสำเร็จ ร่ำรวยได้นั้น  “ไม่ยากอย่างที่คิด”  แต่ต้องเริ่มจากการปรับมายเซ็ทของตัวเองก่อน คือ “ไม่ตกใจขาย ดีใจซื้อ” ต้องเลือกลงทุนเน้นหุ้นกิจการที่ดีและเติบโต “ซื้อสิ่งที่ดี ถือให้ขึ้นไป เอ็นจอยกับการเติบโต”