Sideways Up  "ถือ" หุ้น Big Cap (30 ธ.ค. 2565)

Sideways Up  "ถือ" หุ้น Big Cap (30 ธ.ค. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1,671/1,680 จุด แนวรับ 1,650/1,638 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ เกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม หลังจากทะลุแนวต้านที่ 1,651 จุด และมีโอกาสพุ่งขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,671 จุด

เชิงกลยุทธ์ พิจารณา "ถือ" หุ้น Big Cap โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Reopening ซึ่งมีโมเมนตัมเชิงบวก จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว เพื่อรับประโยชน์จากการเกิด January Effect (สถิติบ่งชี้ตั้งแต่ปี 2016–21 ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์แรกปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.40%) หุ้นแนะนำ AU EKH EA

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: AWC BGRIM CK CENTEL GLOBAL BH BEM CPALL AOT BBL LH CPN MINT KTB TTB BDMS (แนะนำซื้อ HMPRO)

+ Daily Recommendations: AU (แนวรับ 11.20/11.00 บาท โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 11.70 หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 12.80 บาท) EKH (แนวรับ 8.35/8.00 บาท แนวต้าน 8.75/9.00 บาท) EA (แนวรับ 96.50/94.50 บาท แนวต้าน 98.50/100.00 บาท)

+ หุ้นได้ประโยชน์จากการยกเลิกการกักตัวของจีน: AOT AAV BAFS BA

+ หุ้นกลุ่ม Reopening ที่มีแนวโน้มกำไรโดดเด่น: CENTEL ERW SHR BCH

+ หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ: CPALL CRC SNNP HMPRO GLOBAL

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: ธปท. เปิดเผยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือน พ.ย. 2022 บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวมาช่วยหนุน และดัชนีการบริโภคภาคเอกชนก็มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

+ Fund Flows: นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้เข้าซื้อสุทธิ 8,444.71 ล้านบาท และเปิด Long สุทธิใน SET50 Index Futures +14,636 สัญญา

 

ประเด็นสำคัญ

- US: Chicago PMI เดือน ธ.ค. คาดที่ 40 เพิ่มขึ้นจาก 37.2

- Thailand: Retail Sale เดือน ต.ค. คาดขยายตัว +4.9% ขยายตัวลดลงจากเดือน ก.ย. ที่ +12.4%

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 7: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวบวกขึ้นได้ตลอดทั้งวัน ปิดที่ 1,661.20 จุด +13.92 จุด วอลุมซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.16% กลุ่มการแพทย์ +1.88% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค +0.90% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.63% หุ้นบวก >4% STEC SGC PSG JTS SKY BBIK UBA HL MORE MITSIB ALL หุ้นลบ >4% A5 NCAP BRR CRANE

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA +1.05% S&P500 +1.75% NASDAQ +2.59% โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาจทำให้ตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และจะทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรม ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคฯ ซึ่งได้อานิสงส์จากการ ย่อตัวของ 10Y US Bond Yield -4bps สู่ระดับ 3.82% ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 +0.97% DAX +1.05% FTSE +0.21% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีนำตลาดปรับตัวขึ้น หลังได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้น ขานรับข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของเฟด

+/- น้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดลบ ส่วนทองคำปิดบวก: WTI -56 เซนต์ ปิดที่ USD78.40/บาร์เรล Brent -USD1 ปิดที่ USD82.26/บาร์เรล นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวลง หลังจากหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ออกมาตรการเข้มงวดในการตรวจหาเชื้อ COVID-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากจีน ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมากในประเทศ ส่วนราคาทองคำ +USD10.2 ปิดที่ USD1,826/ออนซ์ เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ -0.59% แตะที่ 103.861 และการร่วงลงของ 10Y US Bond Yield เป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ

 

ประเด็นสำคัญ

+ Thailand: ธปท. คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือน ธ.ค. 2022 และระยะต่อไปว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมองว่าในช่วง 4Q22 เศรษฐกิจไทยค่อนข้างจะเป็นไปตามทิศทางที่คาดการณ์ไว้ และเติบโตได้ต่อเนื่องจาก 3Q22 โดยปัจจัยบวก เช่น ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยก็ออกมาดีกว่าที่คาด ขณะที่ด้านปัจจัยลบ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ยังเป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

+ US: EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น +7.18 แสนบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดลดลง -1.5 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง -3.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดเพิ่ม +5.2 แสนบาร์เรล

+ China: โกลด์แมน แซคส์ เตือนว่าการเปิดพรมแดนอีกครั้งของจีนแผ่นดินใหญ่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ และอาจนำมาซึ่งปัญหาด้านแรงงานและห่วงโซ่อุปทานในระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SAWAD KTC CPN

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: AU EKH EA

Derivatives: ปิด Long S50H23 ล็อกกำไรก่อนวันหยุดยาว