BBGI แนวโน้มอุปสงค์เอทานอลและไบโอดีเซลดีขึ้น

BBGI แนวโน้มอุปสงค์เอทานอลและไบโอดีเซลดีขึ้น

ปรับลดประมาณการกำไรเต็มปีและปรับลดราคาเป้าหมาย แต่ปรับเพิ่มคำแนะนำ

คาดว่าผลประกอบการใน 4Q65F จะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BBGI ใน 4Q65F จะอยู่ที่ 67 ล้านบาท (+17% YoY, พลิกฟื้น QoQ จากขาดทุนสุทธิ 69 ล้านบาท) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะอัตรากำไรขั้นต้นของเอทานอลพลิกเป็นบวกที่ 7.0% จาก -5.5% ใน 4Q64 เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงในปีที่แล้ว ส่วนผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้น QoQ จะเป็นเพราะมีกำไรจากไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าผลขาดทุนจากสต็อกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 120 ล้านบาทใน 3Q65 หลังจากที่ราคา CPO แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 32.0 บาท/กก. จากเดือนกันยายนถึงธันวาคม นอกจากนี้ เราคาดว่าปริมาณยอดขายไบโอดีเซลจะเพิ่มขึ้น 13% QoQ เป็น 53 ล้านลิตรใน 4Q65 เนื่องจากกระทรวงพลังงานปรับข้อกำหนดให้เพิ่มส่วนผสมของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 31 มีนาคม ในขณะเดียวกันเราคาดว่าปริมาณยอดขายเอทานอลจะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 42 ล้านลิตร จากอุปสงค์ที่สูงตามฤดูกาลของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ในขณะที่เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจไบโอดีเซลและเอทานอลของ BBGI จะดีขึ้น QoQ จาก -1.8% เป็น 6.0% และจาก 2.5% เป็น 7.0% ตามลำดับ

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565/2566F ลง 86%/39%

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ลง 86% เหลือ 72 ล้านบาท และปี 2566F ลง 39% เหลือ 583 ล้านบาท เนื่องจาก i) อัตรากำไรขั้นต้นของไบโอดีเซลลดลง และ ii) รายได้ลดลงจากธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High-value bio-based products) ทั้งนี้ถึงแม้ว่ากระทรวงพลังงานปรับข้อกำหนดให้เพิ่มส่วนผสมของไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 ระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม – 31 มีนาคม แต่ตลาดไบโอดีเซลจะยังเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินอยู่ ซึ่งหมายถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมไบโอดีเซลในประเทศจะยังอยู่ในระดับสูง นอกจากประเทศไทยจะกลับไปใช้ B10 อีกครั้ง ดังนั้นเราจึง
ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นไบโอดีเซลของ BBGI ในปีนี้ลงจาก 8.5% เหลือ 5.5% และในปีหน้าลงจาก 8.8% เหลือ 7.0% นอกจากนี้ เรายังปรับลดประมาณการรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (High-value bio-based products) ในปีนี้ลง 95% เหลือเพียง 5 ล้านบาท และในปีหน้าลง 91% เหลือ 50 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเลื่อนการก่อสร้างโครงการ CDMO ออกไปโดยยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอน (ก่อนหน้านี้กำหนดจะเริ่มเปิดดำเนินการใน 4Q66) ในขณะเดียวกันภาวะตลาดของธุรกิจนี้ในเอเชียประสบความยากลำบากมากกว่าที่บริษัทคาดเอาไว้ตอนที่จัดประชุม IPO เมื่อต้นปีนี้

 

 

 

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2566 ลงเหลือ 8.10 บาท จากเดิมที่ 10.20 บาท โดยอิงจาก PE ที่ 20x เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง แต่อย่างไรก็ตาม เราปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น BBGI จาก ถือ เป็นซื้อ เพราะเราคาดว่ากำไรใน 4Q65 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอุปสงค์เอทานอลและไบโอดีเซลในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยนักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 11.0 ล้านคนในปีนี้ เป็น 25.0 ล้านคนในปี 2566F และ 36.0 ล้านคนในปี 2567F

 

Risks

ความผันผวนของ margin เอทานอลและไบโอดีเซล และปริมาณยอดขายของผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดรวมถึงการเริ่มผลิตสินค้าจากวัตถุดิบชีวภาพที่มีมูลค่าสูง