‘ไทยพาณิชย์’ ชู 2 โปรดักต์สินเชื่อ สร้างความมั่งคั่ง “กลุ่มเวลธ์”

‘ไทยพาณิชย์’ ชู 2 โปรดักต์สินเชื่อ   สร้างความมั่งคั่ง “กลุ่มเวลธ์”

ไทยพาณิชย์ รุก 2โปรดักต์สินเชื่อ เจอกลุ่มเวลธ์ ชู Property backed Loan ดีมานด์พุ่ง คาดสินเชื่อปีหน้าทะลุ 3หมื่นล้านบาท

          ที่ดินในประเทศไทย  320 ล้านไร่ ครอบครองโดยประชาชน 165.5 ล้านไร่ หรือราว 50% ของที่ดินทั้งหมด และราว 5% ของประชากรทั้งหมด ถือครองที่ดินประมาณ 70-80% ของที่ดินทั้งหมด ในนี้คาดการณ์ว่า 1 ล้านคน ถือครองโดยกลุ่ม ลูกค้ามั่งคั่ง(Wealth)

    การถือครองที่ดินจำนวนมากของกลุ่ม Wealth ทำให้ไม่แปลกใจ ที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีสถาบันการเงินทั้งใน และต่างประเทศ เข้ามาแข่งขันในการให้บริการกลุ่ม Wealth ค่อนข้างดุเดือด เพราะการถือครอง “ที่ดิน” สะท้อนความมั่งคั่งของลูกค้าไทยเป็นอย่างดี

      นี่ถือเป็นการเปิดโอกาสที่ดี สำหรับ “ธนาคารไทยพาณิชย์” ที่จะเข้ามารุกในธุรกิจ Wealth และ Private Banking ผ่านโปรดักต์ Property backed Loan และ Lombard Loan มากขึ้น

      ศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment office and product และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า Property backed Loan ถือเป็นโปรดักต์ ที่เหมาะกับคนไทยอย่างยิ่ง
 

        โดยเฉพาะกลุ่มมั่งคั่ง ที่มักคือครอง “ที่ดิน” เป็นสินทรัพย์หลัก มากกว่าการถือครองหุ้น หากไม่ใช่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์  เพราะที่ดินมีแต่ราคาขึ้น เป็นสินทรัพย์หายาก และมีจำกัด ทำให้คนไทย มักเลือกที่สะสมที่ดิน เพราะเป็นโอกาสในระยะยาว แต่ระยะสั้นไม่มีสภาพคล่อง แม้ราคาดี หากไม่ได้นำไปขายหรือใช้ประโยชน์

     สำหรับโปรดักต์ Property backed Loan พูดง่ายๆคือ เป็นการเปลี่ยนสินทรัพย์ที่ไม่มีสภาพคล่อง ให้เป็นสภาพคล่อง ผ่านการให้สินเชื่อ โดยการใช้ที่ดิน แปลงมาเป็นสินเชื่อ เพื่อให้ลูกค้านำเงินไปลงทุน โดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียที่ดิน แถมมีโอกาสได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จากการเอาเงินไปลงทุนต่อยอดสร้างผลตอบแทน  ซึ่งไม่จำเป็นต้องควักเนื้อ หรือใช้สภาพคล่องของตัวเองมาลงทุน

     ด้วยต้นทุนดอกเบี้ยต่ำมาก เพียง 2.5-3.5% หากเทียบกับเงินกู้ประเภทอื่นๆ และเงินที่ได้ไป ก็สามารถใช้ต่อยอดไปลงทุนกับธนาคารได้ ทั้งในพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้เอกชน กองทุนรวมฯลฯ ได้

       ศรชัย กล่าวว่า Property backed Loan  เป็นโปรดักต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีการ"เก็บภาษีที่ดิน” ทำให้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่งที่ถือครองที่ดิน เริ่มมองหาแนวทางในการบริหารที่ดินมากขึ้น เพื่อไม่ให้สร้าง “ภาระ” หรือต้นทุนกับผู้ถือครองที่ดิน เพราะคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีได้ไม่มากก็น้อย ก็ต้องจ่าย หากที่ดินไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์  

     ดังนั้น การนำ “ที่ดิน” มาใช้สร้างรายได้เพิ่มขึ้น ก็เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนกลุ่มมั่งคั่งเลือกในปัจจุบัน

      “กลุ่ม Wealth ที่ใช้โปรดักต์ Property backed Loan เมื่อนำเงินไปลงทุนผ่านโปรดักต์ต่างๆ มักได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า อย่างน้อย 4-5% สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และอาจสูงถึง 5-6% หากลงทุนผ่านหุ้นกู้ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ นอกจากนำมาชำระเงินกู้ธนาคารได้แล้ว ยังเหลือนำไปใช้จ่าย “ภาษีที่ดิน” ได้อีกด้วยแถมมีโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนมาใช้ต่อยอดการลงทุนต่อได้ด้วย ดังนั้นโปรดักต์นี้จึงถือเป็นโซลูชันที่ดีสำหรับเศรษฐีเมืองไทย”

      สำหรับการอนุมัติสินเชื่อผ่าน Property backed Loan ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้สินเชื่ออยู่ที่ราว 70-80% ของหลักประกัน โดยเฉพาะที่ดินในเมือง หัวเมืองใหญ่ๆ และกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มลูกค้าชั้นดีของธนาคาร ที่แทบไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้การปล่อยสินเชื่อผ่านโปรดักต์นี้มีความเสี่ยงต่ำมาก หากเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่นๆ

      โดยโปรดักต์นี้ ถือเป็นโปรดักต์ที่ทำเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น และมีผู้ให้บริการในปัจจุบันเพียง 3-4 ราย ต่างกับ Lombard Loan ที่เป็นโปรดักต์ที่เกิดขึ้นมาแล้วเป็น100 ปี และทำกันแพร่หลายในต่างประเทศ

      แม้จะมีความแพร่หลาย การแข่งขันสูง แต่ โปรดักต์อย่าง Lombard Loan ก็เป็นโปรดักต์ที่กลุ่มมั่งคั่งนิยมใช้ค่อนข้างมาก เพราะเป็นโปรดักต์ที่เปลี่ยนสินทรัพย์การลงทุน มาเป็นสภาพคล่องได้ง่าย เพียงใช้สินทรัพย์ทางการเงินของลูกค้าเป็นหลักประกัน เช่นพอร์ตหุ้น กองทุนรวม พันธบัตร เงินฝากมาใช้ค้ำประกัน เพื่อขอสินเชื่อได้

      จุดต่างของ Lombard Loan ที่ต่างกับ Property backed Loan คือ เงินกู้ที่ได้ ต้องลงทุนกับผลิตภัณฑ์ของไทยพาณิชย์ ทั้ง 100% แต่ Property backed Loan สามารถนำเงินไปลงทุนนอกเหนือกลุ่มธนาคารได้บางส่วน ทำให้เกิดความคล่องตัวในการลงทุนมากขึ้น เช่น 70%ลงทุนกับไทยพาณิชย์ และ 30% ลงนอกกลุ่มได้

     การรุกกลุ่มมั่งคั่ง กลุ่ม Wealth ของไทยพาณิชย์ ที่ผ่านมา ผ่าน 2 โปรดักต์ คือ Property backed Loan มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้การเติบโตผ่านการลงทุน หรือการปล่อยสินเชื่อภายใต้กลุ่มไทยพาณิชย์ เติบโตมากขึ้น

      ปัจจุบันการปล่อยสินเชื่อผ่าน Property backed Loan  มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท แม้เริ่มเข้ามาในตลาดนี้ไม่ถึง 2 ปี ขณะที่ การปล่อยสินเชื่อผ่าน Lombard Loan ยอดปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ราว 10,000 ล้านบาท

       “เราอยากทำให้ดีที่สุด ที่ลูกค้าต้องการ และสังเกตได้ว่า แม้ปีนี้จะเป็นปีที่ตลาดไม่ดี นักลงทุนกล้าๆ กลัวในการลงทุน แต่พอร์ต Property backed Loan โตมาจากหมื่นล้านสิ้นปีก่อน มาที่ใกล้ 2 หมื่นล้านปีนี้ และ Lombard Loan ยังโตได้”

     “ศรชัย” เชื่อว่า ทั้งสองตลาดนี้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะวันนี้ ขนาดตลาด และคนที่ใช้โปรดักต์นี้ยังไม่มากนัก หากเทียบกับจำนวนผู้ที่ถือครองที่ดิน และผู้ถือครองสินทรัพย์การลงทุน อีกทั้งภายใต้การลงทุนปีหน้าที่ของจะถูกทั่วโลก จะเห็นราคาหุ้นลดลง จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่างๆ ทำให้การลงทุน “สดใส” มากขึ้น 

      ดังนั้นทำให้เชื่อว่าความต้องการสินเชื่อผ่าน Property backed Loan ยังเติบโตได้อีกมาก และคาดว่า

Loan จะเห็นยอดคงค้างแตะระดับ 20,000 ล้านบาทได้

       “ปีหน้าจะเป็นช่วง ที่ของถูกมีเยอะ ตลาดจะลง ดอกเบี้ยใกล้หยุดขึ้น ใกล้ถึงระดับสูงสุดแล้ว ทำให้เป็นโอกาส สำหรับการลงทุนมากขึ้น เหล่านี้เป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในกลุ่มตราสารหนี้ค่อนข้างมาก และผลตอบจะดึงดูดมากขึ้น แต่ควรลงทุนระยะยาว เช่น 7-10 ปี ที่อาจได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยสูง ทำกำไรได้กำไรมากขึ้น แถมมีโอกาสได้รับปันผลอีกเด้ง และลงทุนในตลาดหุ้น ก็ต้องเลือกในหุ้นที่มีพื้นฐานดี และลงทุนในตลาดสหรัฐ จะเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะราคาหุ้นจะลงมากระดับหนึ่ง”

      สุดท้ายแล้ว นอกจากการเสนอโปรดักต์เพื่อตอบโจทย์ ต้องความต้องการของนักลงทุนแล้ว หน้าที่ของ “ไทยพาณิชย์” คือการเซอร์วิสลูกค้ามั่งคั่งให้ได้ครบวงจร เพราะการทำธุรกิจWealth  ไม่ใช่การแนะนำให้เอาเงินไปลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องช่วยลูกค้าหา “โซลูชัน” ไปตอบโจทย์ลูกค้าในหลากหลายมุมด้วย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์