Sideways ซื้อเก็งกำไร BANPU CPALL SC (22 พ.ย. 2565)

ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Slightly Negative กังวลจีนออกมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ เพื่อควบคุม COVID-19 ไฮไลท์วันนี้ คือ Thailand: Opportunity Day: ALLY BEYOND ITEL IRPC ILINK GUNKUL PTG CHEWA BPP CPN GLAND BANPU CPNREIT CPNCG AGE KCC; OECD: รายงาน World Economic Outlook; US: สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขา St.Louis Bullard, สาขา Cleveland Mester; EU: ดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ก.ย. คาด -11.2 พันล้านยูโร (Vs เดือน ส.ค. -20.21 พันล้านยูโร)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ 

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BEM AOT EA CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB (ซื้อ CPALL)

+ Daily Recommendations: BANPU (ปัจจัยบวกจากการยื่น Filing เตรียมเข้า เทรดในตลาดหลักทรัพย์ของ BKV บริษัทลูกในสหรัฐฯ และการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของ FTSE คาดคิดเป็นเม็ดเงิน USD26mn) CPALL (อานิสงส์จากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลของ 4Q22E รวมถึงช่วง World Cup 2022) SC (แนวโน้มกำไรเติบโตต่อเนื่องทั้ง YoY และ QoQ จาก backlog ที่แข็งแกร่งของบริษัท)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL

+ FTSE Rebalance Index มีผลต่อราคาปิดวันที่ 16 ธ.ค.: +TLI BANPU MINT

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: สภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2022E เป็น 3.2% (Vs เดิม 2.7-3.2%) และคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2023E เติบโต 3-4% (ค่ากลาง 3.5%) ซึ่งใกล้เคียงกับคาดการณ์ของธปท. ที่ 3.3% และ 3.8% ตามลำดับ หลังจาก 9M22 GDP ขยายตัวแล้ว +3.1% YoY (3Q22 GDP เติบโตดีกว่าคาด +1.2% QoQ +4.5% YoY Vs คาด +0.9% QoQ +4.5% YoY โดยด้านการใช้จ่าย พบว่า การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเติบโต 9% QoQ และ 11% QoQ (Vs 7.1% QoQ และ 2.3% QoQ) ตามการใช้จ่ายที่เร่งขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดบริการ และการเร่งขึ้นของการลงทุนเครื่องจักร ก่อสร้าง ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยว 3Q22 อยู่ที่ 3.608 ล้านคน อัตราเข้าพักเฉลี่ย 47.8% (9M22 อยู่ที่ 5.688 ล้านคน +1,863% YoY อัตราเข้าพักเฉลี่ย 42.02%)

 

ปัจจัยลบ

- China: ปักกิ่งเริ่มสั่งล็อกดาวน์หลายเขต ให้ประชาชนอยู่ในบ้าน รวมถึงระงับการเรียนการสอนในโรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นเวลา 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. หลังพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย เมื่อวันอาทิตย์ และติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 951 ราย สูงสุดตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2021

- PTTEP: บริษัทย่อย PTTEP AAA เผยจะชำระเงิน AUD192.5mn (USD129mn) ใน 4Q22E เพื่อระงับการดำเนินคดีตามผลการเจรจาไกล่เกลี่ยภายใต้การดำเนินคดีแบบกลุ่มผู้เลี้ยงสาหร่ายในประเทศอินโดนีเซีย จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของแหล่ง มอนทาราปี 2009 ตามคำสั่งศาลสหพันธรัฐประเทศออสเตรเลีย คาดส่งผลกระทบต่อเป้าหมายกำไรปี 2022E ลดลง 5-7%

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: Opportunity Day: ALLY BEYOND ITEL IRPC ILINK GUNKUL PTG CHEWA BPP CPN GLAND BANPU CPNREIT CPNCG AGE KCC

- OECD: รายงาน World Economic Outlook

- US: สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขา St.Louis Bullard, สาขา Cleveland Mester

- EU: ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ย. คาด -11.2 พันล้านยูโร (Vs เดือน ส.ค. -20.21 พันล้านยูโร)

 

 

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย: ตลาดหุ้นช่วงเปิดตลาด อ่อนตัวลงไปต่ำสุดที่ 1,611.45 จุด ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นภูมิภาค ก่อนมีแรงซื้อคืนรับข่าวดีรายงาน 3Q22 GDP สูงกว่าคาด ช่วยหนุนตลาดปรับสูงขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดของวันที่ 1,623.30 จุด ก่อนอ่อนตัวมาปิดตลาดที่ 1,618.86 จุด +1.48 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ +1.98% ประกันภัยและประกันชีวิต +1.16% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.14% ยานยนต์ +0.98% หุ้นบวก >4% POLY TKN TEAM AWC CH TPIPL UREKA PRAPAT AMARC หุ้นลบ >4% SABUY TH JAS JTS MORE SE SIMAT

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปิดลบ: DJIA -0.13% S&P500 -0.39% NASDAQ -1.09% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่ง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 หลังจากพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ได้ปัจจัยหนุนลดช่วงลบ จากนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก และนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ แนะนำ ให้เจ้าหน้าที่เฟดใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนตลาดหุ้นยุโรปกลับมาปิดลบ CAC40 -0.15% DAX -0.36% FTSE -0.12% นำลบโดยหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซร่วง -2.7% จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นในจีน

- ราคาน้ำมันดิบและทองปิดลบ: WTI -35 เซนต์ ปิดที่ USD79.73/บาร์เรล Brent -17 เซนต์ ปิดที่ USD87.45/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว หลังรัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน ออกมาปฏิเสธข่าวรายงานของนสพ. Wall Street Journal ที่ว่าซาอุดีอาระเบียและสมาชิกกลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต 5 แสนบาร์เรล/วัน ในการประชุมกลุ่มโอเปคพลัสในวันที่ 4 ธ.ค. ส่วนราคาทองคำ -USD14.80 ปิดที่ USD1,739.60/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และข่าวจีนยกระดับมาตรการสกัด COVID-19 ในปักกิ่ง

 

ประเด็นสำคัญ

+ Thailand: สภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2022E เป็น 3.2% (Vs เดิม 2.7-3.2%) และคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2023E เติบโต 3-4% (ค่ากลาง 3.5%) ซึ่งใกล้เคียงกับคาดการณ์ของธปท. ที่ 3.3% และ 3.8% ตามลำดับ หลังจาก 9M22 GDP ขยายตัวแล้ว +3.1% YoY (3Q22 GDP เติบโตดีกว่าคาด +1.2% QoQ +4.5% YoY (Vs คาด +0.9% QoQ +4.5% YoY) โดยด้านการใช้จ่าย พบว่า การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนเอกชน ปรับตัวดีขึ้นมาก โดยเติบโต 9% QoQ และ 11% QoQ (Vs 7.1% QoQ และ 2.3% QoQ)) ตามการใช้จ่ายที่เร่งขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดบริการ และการเร่งขึ้นของการลงทุนเครื่องจักร ก่อสร้าง

+ Thailand: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ใน 3Q22 ว่า สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 5.3% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.77% ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ในภาพรวมระบบธนาคารพาณิชย์มีความเข้มแข็ง มีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และสนับสนุนความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจและครัวเรือนได้ในระยะถัดไป

- Oil: โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ใน 4Q22E สู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล โดยได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีน ซึ่งจะทำให้มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ความไม่ชัดเจนของกลุ่ม G7 ในการใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย เป็นอีกสาเหตุที่ฉุดราคาน้ำมัน

- China: จีนสั่งล็อกดาวน์เมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยสั่งปิดโรงเรียน และมหาวิทยาลัย และสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 5 วัน หลังจากพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์นี้ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทางการจีนกำลังกลับมาใช้มาตรการควบคุม COVID-19 ที่เข้มงวด ตามแนวทางนโยบาย Zero Covid

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TRUE BJC MAKRO

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BANPU CPALL SC

Derivatives: แนะถือ Short S50Z22 รอทำกำไรตามเป้า