Sideways ซื้อเก็งกำไร HMPRO CRC BJC (18 พ.ย. 2565)

Sideways ซื้อเก็งกำไร HMPRO CRC BJC (18 พ.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,630/1,635 จุด แนวรับ 1,611 (EMA 50 สัปดาห์)/1,600 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร HMPRO CRC BJC ทางเทคนิค จะมีสัญญาณขายรอบใหม่ หากดัชนีฯ ปิดต่ำกว่า 1,611 จุด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,594/1,580 จุด

ส่วนโมเมนตัมลงทุนวันนี้เป็น Slightly Negative โดยมีปัจจัยลบ จากคณะกรรมการเฟดบางท่าน กล่าวสนับสนุนการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยบวก คือ การคาดว่ารายงาน 3Q22E GDP ของไทย ในเช้าวันจันทร์ จะเติบโตแข็งแกร่ง ไฮไลท์วันนี้ คือ 3Q22E Earnings Results: JD.COM, Foot Locker; Thailand: APEC Meeting วันที่ 18-19 พ.ย.; US: Existing Home Sales คาด -8% MoM (Vs เดือน ก.ย. -1.5% MoM), สุนทรพจน์ FED Boston Collins (มีสิทธิ์โหวต); EU: สุนทรพจน์ประธานอีซีบี; การประกาศ FTSE All World Rebalance Index มีผลต่อราคาปิดในวันที่ 16 ธ.ค.

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ CRC AWC CK TCAP BH BEM AOT EA KKP CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB

+ Daily Recommendations: HMPRO CRC BJC (รับ Sentiment เชิงบวก หลังจากไทยสามารถปิดดีลฟุตบอลโลก 2022 สำเร็จ จากความคาดหวังถึงการบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

 

ปัจจัยบวก

+ Thailand: สภาพัฒน์ฯ มีกำหนดรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ 3Q22E GDP Growth ในเช้าวันจันทร์ เวลา 9.30 น. (ก่อนตลาดหุ้นวันจันทร์เปิดทำการ) โดย Consensus คาดเติบโต +4.5% YoY +0.9% QoQ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2Q22 GDP +2.5% YoY +0.7% QoQ และสอดคล้องกับการส่งสัญญาณของธปท. ล่าสุด ที่คาดว่าจะเติบโตสูงกว่า 3% YoY ส่วนมุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2022E สภาพัฒน์ฯ คาดเติบโต 2.7-3.2% YoY ขณะที่ธปท. คาดเติบโต 3.3% YoY (Vs +1.5% ในปี 2021) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.5 ล้านคน และอุปสงค์ในประเทศเติบโต 3.4% YoY (Vs ปี 2021 จำนวน 4 แสนราย และ +1.6% ตามลำดับ)

 

+ Thailand: ไทยบรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ส่งผลบวกต่อต่อการบริโภค สินค้าประเภทโทรทัศน์ เสื้อผ้ากีฬา รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: Opportunity Day: CENTEL B-WORK PLANB UAC CH BA RBF BGC FORTH NOBLE BCH BEM GPSC

- Thailand: APEC Meeting วันที่ 18-19 พ.ย.

- US: Existing Home Sales คาด -8% MoM (Vs เดือน ก.ย. -1.5% MoM), สุนทรพจน์ FED Boston Collins (มีสิทธิ์โหวต)

- FTSE All World Index Rebalance ประกาศในวันที่ 18 พ.ย. และมีต่อราคาปิดในวันที่ 16 ธ.ค. (คาด TLI ถูกเพิ่มคำนวณ Global Standard Index เม็ดเงิน USD80mn)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นวันที่สอง: ตลาดหุ้นไทยผันผวน โดยปรับตัวลดลงในภาคเช้ากรอบ 1,619.05-1,611.28 จุด ก่อนปรับขึ้นเล็กน้อยในภาคบ่าย และมาปิดตลาดที่ 1,614.95 จุด -5.03 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.9 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มการแพทย์ -3.6% (กังวลมาร์จิ้นลดลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และบุคลากรปรับสูงขึ้น) เงินทุนและหลักทรัพย์ -1.03% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -0.98% พลังงานและสาธารณูปโภค และธนาคาร -0.52% หุ้นบวก >4% KLINIQ WPH NFC DEMCO XO A5 หุ้นลบ >4% BDMS BH THG SINGER TH SVI TPS

 

 

- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA -0.02% S&P500 -0.31% NASDAQ -0.35% หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในกรอบที่ถือว่ามีการคุมเข้มมากเพียงพอ โดยมองว่าเพื่อจะกดเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% อัตราดอกเบี้ยควรจะอยู่ที่ 5-7% ขณะที่รายงานผลกำไรบจ. ที่แข็งแกร่งของ Cisco System, Macy ช่วยลดช่วงลบของตลาด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน CAC40 -0.47% DAX +0.23% FTSE -0.06% โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มเฮลท์แคร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก จากการพุ่งขึ้น +7% ของหุ้นซีเมนส์ หลังเปิดเผยผลประกอบการ 4Q22 ที่สดใส

- ราคาน้ำมันดิบและทองปิดลบ: WTI -USD3.95 ปิดที่ USD81.64/บาร์เรล Brent -USD3.08 ปิดที่ USD89.78/บาร์เรล เป็นผลจากการกังวลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง หากจีนออกมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติม หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นมากและโรงกลั่นน้ำมันจีนขอลดปริมาณการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียและซาอุดิอาระเบียในเดือน ธ.ค. ส่วนราคาทองคำ -USD12.80 ปิดที่ USD1,763.00/ออนซ์ เป็นผลจากการกลับมาแข็งค่าของเงิน USD 0.39% แตะ 106.69

 

ประเด็นสำคัญ

- US: กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย

- US: เฟด สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 4.4% ในไตรมาส 4 โดยสูงกว่าระดับ 4.0% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้

+ China: โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ ออกมาเปิดเผยคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน มีแนวโน้มที่จะ ขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2023E หลังจากที่เศรษฐกิจผ่านพ้นผลกระทบเบื้องต้น จากผลพวงของการบังคับนโยบาย COVID-19 เป็นศูนย์ (Covid Zero) ในฤดูใบไม้ผลิ

+ Thailand: กกท. เปิดเผย ไทยบรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จำนวน 64 แมตช์ เป็นที่เรียบร้อย ด้วยมูลค่าประมำณ 1,400 ล้านบาท

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BANPU GPSC TIDLOR

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: HMPRO CRC BJC

Derivatives: แนะถือ Short S50Z22