Selective By (12 ตุลาคม 2565)

Selective By  (12 ตุลาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ลดลง 8 จุด (-0.50%) ปิดที่ 1,563 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.18 หมื่นล้านบาท กังวลสถานการณ์ตึงเครียดยูเครนรัสเซีย, เศรษฐกิจถดถอย และจีนอาจล็อกดาวน์รอบใหม่จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เร่งตัวขึ้น

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,555 จุด ดัชนียังคงถูกกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลัง FED และธ.กลางต่างๆเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ,การลดความเสี่ยงก่อนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐในวันพรุ่งนี้ (คาด CPI ลดลงสู่ 8.1% แต่ Core CPI เพิ่มขึ้นเป็น 6.5%) รวมถึงแรงขายก่อนหยุดยาว 4 วันของตลาดหุ้นไทยจะกดดันต่อดัชนี ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

      AOT CENTEL ERW BA AAV BDMS BH อานิสงส์การเปิดประเทศ 

      KBANK BBL SCB KTB TTB  อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น  

      CPF TU GFPT TFG  เข้าสู่ High season การส่งออกและอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง

 

หุ้นแนะนำวันนี้

     BDMS (ปิด 29 ซื้อ/เป้า 34 บาท) กำไรยังเป็นขาขึ้น คาด 3Q22 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.4%qoq และ เพิ่มขึ้น 16.2%yoy  

    TU (ปิด 18.40 ซื้อ/เป้า 20 บาท) ได้ Sentiment บวกบาทอ่อนค่า ศก.ยุโรปชะลอตัวไม่กระทบแต่เป็นบวก ทูน่ากระป๋องในยุโรปเสมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบ้านเรา (** เราเป็น Co-Underwriter ITC**)

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

PTTGC (ปิด 40.5 ปรับเป็นซื้อ/เป้า 50), Thailand strategy

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

  (-) IMF คงคาดการณ์ World GDP ปีนี้แต่ลดคาดการณ์ในปีหน้า: IMF คงคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ที่ 3.7% ตามเดิม แต่มีมุมมองลบต่อแนวโน้ม ศก. ในปีหน้าพร้อมกับปรับลดคาดการณ์ GDP โลกลงจากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2.9% เป็นขยายตัว 2.7% โดยมี 3 ปัจจัยลบ คือ สงครามยูเครนรัสเซีย, วิกฤติค่าครองชีพ, และศก. จีนชะลอตัว

  (-) WTI หลุด 90$/bbl กังวล ศก.ชะลอตัวกดดันดีมานด์: คราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.78$ (-2%) ปิดที่ระดับ 89.35$/bbl นักลงทุนกังวล ศก.โลกถดถอยจะทำให้ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกลดลง อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากค่าเงิน US Dollar ที่แข็งค่าขึ้น (ล่าสุด Dollar Index =113.4) 

  (-) FED Minutes เราให้น้ำหนักโทนลบคาดกรรมการส่วนใหญ่หนุนขึ้นดอกเบี้ย: FED จะเปิดเผยรายงานการประชุมในคืนวันนี้ คาดกรรมการส่วนใหญ่จะยังหนุนให้เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลงจนแตะกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2% นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่จะเข้ามากดดันบรรยากาศการลงทุนของตลาดในวันนี้