ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร (7 ต.ค.) และเงินเฟ้อสหรัฐฯ (13 ต.ค.)

ติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตร (7 ต.ค.) และเงินเฟ้อสหรัฐฯ (13 ต.ค.)

แม้กรรมการเฟดจะขู่เรื่องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่เรายังมองเฟดมีโอกาสชะลอหรือตรึงการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต่อไป การแสดงความเห็นของกรรมการเฟดหลายท่าน ในหลายวาระตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างยืนยันทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ซึ่งรวมถึงประธานเฟดเซนต์หลุยส์ (เจมส์ บูลลาร์ด) ที่มองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ในการประชุม 2 ครั้งสุดท้าย ส่งผลให้ตลาดกลับมาเพิ่มคาดการณ์โอกาสขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 1-2 พ.ย.นี้ ที่ 0.75% และ 0.50% ด้วยความน่าจะเป็น 66% และ 34% (จากก่อนหน้านี้โอกาสพอๆกัน) ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เริ่มกลับมาขยับขึ้น กดดันต่อบรรยากาศลงทุนและเก็งกำไรในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรามองโมเมนตัมของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอ รวมถึงความเสี่ยงของวิกฤติตราสารหนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดน่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย หรือเริ่มตรึงดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนมีบรรยากาศที่ผ่านคลายขึ้นได้
 

ตุลาคมอาจผันผวนบ้าง แต่หลังจากนี้แรงส่งทางบวกจะชัดเจนขึ้น เรามองตุลาคมอาจผันผวนบ้างจาก 1) การปรับคาดการณ์เศรษฐกิจและประเมินภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ติดตามรายงานเศรษฐกิจของ IMF วันที่ 11 ต.ค. 2) ความกังวลวิกฤติตราสารหนี้ภาครัฐฯ (Sovereign debt crisis) ของประเทศที่ผลตอบแทนพันธบัตรขึ้นแรง อาทิ อังกฤษ 3) ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯและตะวันออกกลาง (ซึ่งรวมถึงรัสเซีย) ผ่านการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 4) การปรับลดประมาณการกำไรบจ.ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง // อย่างไรก็ตาม พ้นจากความเสี่ยงข้างต้น จะเริ่มเข้าสุ่ช่วงที่เศรษฐกิจน่าจะเริ่มเห็นแรงส่งการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นจากภาคบริการและการท่องเที่ยว รวมถึงการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเตรียมการก่อนเลือกตั้ง   
 

 

 

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 5) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, ARIN, SVT, MC, TKN, SCGP, KISS 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดอาจชะลอตัวที่ 1,595 การปรับลงมีแนวรับ 1,580 และ 1,568 จุด โดยโมเมนตัมเก็งกำไรยังเป็นบวก กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มที่ลงเยอะมีโอกาสเป็นเป้าหมายเก็งกำไร แต่ไม่ถือถึงงบออก ส่วนกลุ่มพลังงานสามารถเก็ง PTTEP ตามแนวรับ ส่วนหุ้นโรงกลั่นกำไรไตรมาส 3 ชะลอหนัก เก็งกำไรระมัดระวัง (ถ้าจะเลือก ชอบ SPRC) //หุ้นแนะนำ: SSP*, KAMART*, VRANDA*, FLOYD*

แนวรับ: 1,568-1,580 / แนวต้าน : 1,595-1,605 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

 

 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด - เพิ่มขึ้น 29,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 203,000 ราย

ยอดค้าปลีกยูโรโซนร่วงลงตามคาด – ยอดค้าปลีกใน 19 ประเทศของยุโรปซึ่งใช้สกุลเงินยูโรร่วมกันปรับตัวลดลง 0.3% mom และ 2.0% yoy ทั้งนี้ คาดว่ายอดค้าปลีกจะปรับตัวลง 0.4% mom และ 1.7% yoy

โกลด์แมน แซคส์ คาดราคาน้ำมันพุ่งแตะ $110 ใน Q4/65 – คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะพุ่งขึ้นแตะ 110 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 4/65 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าจะแตะ 115 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 1/66 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล

ไบเดน ประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองตอบโต้โอเปคพลัส – สั่งการให้กระทรวงพลังงานสหรัฐทำการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) อีก 10 ล้านบาร์เรลในเดือนพ.ย.เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

เยอรมนีเผยคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ร่วงมากกว่าคาด – ลดลง 2.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือนหลังปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจลดลงเพียง 0.7%

BoE เผยว่า pension funds ยังห่างไกลจากวิกฤตก่อนที่จะเข้าแทรกแซง – จากเหตุการณ์การปรับตัวลงแรงของมูลค่าพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ หรือ gilts ซึ่งทำให้เกิดการเทขาย Liability-deiven investment funds (LDIs) ซึ่งถือโดย pension plan

พาณิชย์ เตือนผู้ส่งออกเตรียมรับมือมาตรการภาษีคาร์บอนของสหรัฐฯ-อียู - สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายกำหนดมาตรการจัดเก็บภาษีการปล่อยคาร์บอน เสนอให้ผู้ผลิตของสหรัฐฯ และผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีคาร์บอน 55 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการปล่อยคาร์บอน 1 ตัน หากกระบวนการผลิตปล่อยคาร์บอนเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2567

อนุญาโตตุลาการ ชี้ขาด ไทยคม7-8 ถูกต้องตามไลเซนส์กสทช. – มิใช่ดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสาร จึงไม่จำเป็นต้องโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบทรัพย์สินตามคำสั่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแต่อย่างใด

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ CRANE, U

 

ประเด็นติดตาม: 7 ต.ค. – US Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate / 12 ต.ค. – US PPI / 13 ต.ค. – US CPI / 14 ต.ค. - US Retail Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)