SENA เตรียมเสนอขายหุ้นกู้อายุ 2 ปี และ 3 ปี ดบ. 4.00 – 4.70% ก.ย.นี้

SENA เตรียมเสนอขายหุ้นกู้อายุ 2 ปี และ 3 ปี ดบ. 4.00 – 4.70% ก.ย.นี้

เสนาฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปอายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00 – 4.70% ก.ย.นี้ ใช้เป็นเงินทุนรองรับการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ต.ค.นี้ 1,200 ล้านบาท และที่เหลือใช้ป็นเงินทุนหมุนเวียน ปีนี้เดินหน้าทรานฟอร์มธุรกิจสร้างการเติบโต

ผศ. ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2565 ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “ลบ” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

โดยหุ้นกู้ชุดใหม่นี้เป็นหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 12 - 14 กันยายน 2565 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) บล.เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS) บล.เอเซีย พลัส จำกัด (ASP) และบล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) 

วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมเงินทุนไว้สำหรับชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนตุลาคม 2565 จำนวน 1,200 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ โดยปัจจุบัน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ "BBB" แนวโน้ม "ลบ" ซึ่งสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลางถึงต่ำและสัดส่วนรายได้จากการลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่อยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูงและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นซึ่งอาจส่งผลให้กำลังซื้อของผู้ต้องการที่อยู่อาศัยลดลงและต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นได้ในระยะสั้นถึงปานกลาง 

สำหรับภาพรวมผลดำเนินการช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 บริษัทมีรายได้ 1,121.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการเช่าและบริการ และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 247.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทมียอดขายพร้อมโอน (Backlog) จำนวน 9,139 ลบ. ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ถึงปี 2567

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2565 อีก 7 โครงการ ได้แก่โครงการเสนาคิทท์ นวนคร เฟส 1 โครงการเสนาคิทท์ เวสเก็ต บางบัวทอง เฟส2 โครงการเสนาคิทท์ บางนา กม.29 โครงการเสนาคิทท์ รังสิต - คลอง 4 โครงการเสนาวิลล์ รามอินทรา เฟส3 โครงการเฟล็กซี่ สุขสวัสดิ์ 13 และโครงการ SENA Ville วงแหวน บางบัวทอง 


ทั้งนี้ ในปี 2565 ถือเป็นปีแห่งการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ของเสนาที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญภายใต้กลยุทธ์ “SENA Next” มิติใหม่สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมตอกย้ำแนวคิด Made From Her “คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า” พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ เปิดโครงการใหม่ 49 โครงการ 27,480 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการบริษัท เจ.เอส.พี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ซึ่งเป็นผลให้เสนาขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ทั้งในกรุงเทพ - ปริมณฑล และต่างจังหวัดครอบคลุมทุกโลเคชั่น และมีจำนวนโครงการแนวราบมาเสริมทัพจำนวนมาก โดยทางบริษัทได้วางเป้าหมายยอดโอน 12,186 ล้านบาท และยอดขาย 13,979 ล้านบาท  
ขณะเดียวกันด้านของการพัฒนาแบรนด์โปรดักส์ เพื่อให้ครอบคลุมและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มใหม่ ปีนี้ เสนายังคงเน้นเปิดตัว “SENA KITH” คอนโดของคนช่างคิด ไฟติ้งแบรนด์ของเสนาที่ได้รับการตอบรับจากตลาดดีมากในปีที่ผ่านมา พร้อมปั้นแบรนด์คอนโดใหม่ “Flexi” เจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Y และ Z ที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก และโครงการแนวราบ ซี่รีส์ทาวน์โฮมอิสระ ภายใต้แบรนด์ “SENA Village” 


นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ซึ่งมอบความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการร่วมมือกันพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มีแผนจะพัฒนาโครงการร่วมกันทั้งแนวราบและแนวสูง 19 โครงการรวม มูลค่า 13,900 ล้านบาท 
“เราเชื่อว่าการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมองว่าหุ้นกู้ SENA ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสลงทุน ทางเสนามีความมั่นคงมีอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจได้ตลอดการถือครอง”