เครื่องมือทางการเงิน-องค์ความรู้ เพื่อจัดการความเสี่ยงจากภูมิอากาศแปรปรวน

เครื่องมือทางการเงิน-องค์ความรู้  เพื่อจัดการความเสี่ยงจากภูมิอากาศแปรปรวน

ยุทธศาสตร์การเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยตามกรอบแนวคิดปี พ.ศ. 2573 (Thailand's Climate Finance Strategy: CFS)

ตามข้อมูลจาก รายงานของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า  ยุทธศาสตร์นี้เป็นกรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์สำหรับแนวทางการ จัดสรรทางการเงินในระดับมหภาค เพื่อการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความท้าทาย รวมถึงโครงการที่ได้รับการจัดลำดับความสำคัญ 

โดย CFS จัดทำแผนเป้าหมายและสังเคราะห์แหล่งที่มาของ การเงินด้านสภาพภูมิอากาศทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเปลี่ยนผ่าน ประเทศเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำและมีความสามารถในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้ง การใช้กลยุทธ์และแผนปฏิบัติการในระดับสาขา ที่เป็นความต้องการและตัวขับเคลื่อนเฉพาะ

นายเกรียงไกร กัลหะรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ให้ความสำคัญกับปัญหาด้านความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นส่วนสำคัญของความเสี่ยง ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยถือวาระของธนาคารกลางทั่วโลกและเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือและองค์ความรู้ทางการเงินเพื่อการปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศซึ่ง ธ.ก.ส. ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ผ่านการดำเนินงานโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ ของเยอรมัน (GIZ) ภายใต้โครงการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินเพื่อการปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศในภาคการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Innovative Climate Risk Financing for the Agricultural Sector in the ASEAN Region: AgriCRF)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยมีศักยภาพในการบริหารจัดการทางการเงินและสามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส. และ GIZ มีแผนการขยายผลการนำหลักสูตรฝึกอบรมทางการเงิน เพื่อการรับมือกับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปต่อยอดในการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพ เช่น การปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Strengthening Climate - Smart Rice Farming Project: Thai Rice GCF) 

พร้อมกันนี้จะมีการขยายผลการนำเครื่องมือ ESG Risk Radar ใช้ในการประเมินความเสี่ยงก่อนการให้สินเชื่อภายใต้โครงการ Thai Rice GCF เพื่อเป็นมาตรการลดความเสี่ยงลูกค้าธนาคารและเสริมสร้างการบริหารความเสี่ยงอย่างยั่งยืน 

ด้าน ดร. ทีโม เมนนิเคน ผู้อำนวยการองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า GIZ มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งภาคเศรษฐกิจ และภาคการเกษตรด้วยการเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะภาคการเกษตรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญเกษตรกรไทยมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงด้านอาหารและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ 

อย่างไรก็ตามเกษตรกรกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้นตามลำดับส่งผลกระทบต่อผลผลิตรายได้และคุณภาพชีวิต ดังนั้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง GIZ ธ.ก.ส. และภาคีเครือข่าย ในโครงการต่าง ๆ จะช่วยเสริมสร้างทักษะและองค์ความรู้ทางการเงินให้กับเกษตรกร พร้อมกับเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและช่วยให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับยุทธศาสตร์CFS มีองค์ประกอบหลัก 5 ประการ เพื่อระดมเงินทุนและจัดสรรเงินทุนสำหรับการ ดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบแรก การคลังภาครัฐ (Public Finance) การจัดทำงบประมาณและรายได้ โดยใช้กลไกต่าง ๆ อาทิตราสารหนี้สีเขียว (Green Bonds) และกองทุนด้านสภาพภูมิอากาศ 

องค์ประกอบที่สอง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินงาน (Enhancing the Enabling Environment) มุ่งเน้นการพัฒนานโยบายและกรอบการกำกับดูแลโครงการด้าน สภาพภูมิอากาศ ที่ครอบคลุมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถและความเข้มแข็งขององค์กร 

องค์ประกอบ ที่สาม การพัฒนาเครื่องมือทางการเงินและเศรษฐศาสตร์ (Developing Financial & Economic Instruments) โดยสร้างเครื่องมือและกลไกทางการเงิน เช่น กองทุนผสม สิ่งอำนวยความสะดวก มาตรการจูง ใจด้านคาร์บอนและภาษี เพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ 

องค์ประกอบที่สี่ การมีส่วนร่วม ของภาคเอกชน (Private Sector Engagement) โดยปลดล็อกการจัดหาแหล่งเงินลงทุนในภาคเอกชนสำหรับ โครงการด้านสภาพภูมิอากาศที่ผ่านกลไกที่พิสูจน์แล้ว เช่น ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และ องค์ประกอบที่ห้า การติดตาม การประเมิน และการรายงาน (Monitoring, Evaluation and Reporting) โดยสร้างระบบที่มีประสิทธิภาพสำหรับการติดตาม ประเมินประสิทธิผลของการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มุ่งเน้นความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการตรวจวัดผ

แนวทางบูรณาการสำหรับจัดสรรรูปแบบทางการเงินเพื่อการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่หลากหลายและเพิ่มประสิทธิภาพของแหล่งเงินลงทุนในประเทศไทยที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ควบคู่กับเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสม