ไทยเบเวอร์เรจแคน เชื่อมั่นความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องตรงข้ามธุรกิจ

ไทยเบเวอร์เรจแคน เชื่อมั่นความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องตรงข้ามธุรกิจ

เปิดภารกิจ "ไทยเบเวอร์เรจแคน" เดินหน้าความยั่งยืน ผ่านเวทีสัมมนาด้านความยั่งยืนแห่งปี SUSTAINABILITY FORUM 2026 Shift Forward : Overcoming Challenges

การขับเคลื่อนความยั่งยืนถือเป็นภารกิจที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะทุกภาคส่วนต้องการเห็น "โลก" ที่ไว้ให้คนรุ่นหลังยังคงงดงามทุกมิติทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม

งานสัมมนา SUSTAINABILITY FORUM 2026 Shift Forward : Overcoming Challenges จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ มีผู้นำองค์กรธุรกิจมากมาย แบ่งปันมุมมอง ตลอดจนวิสัยทัศน์การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน

โดยหัวข้อ Closed-Loop Recycling - A Never-Ending Utility นายภวินท์ ชยาวิวัฒน์กุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ไทยเบเวอร์เรจแคน จำกัด และผู้ก่อตั้ง Aluminium Loop ได้ฉายภาพใหญ่ของบริษัทในฐานะเป็นผู้ผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชีย 

ไทยเบเวอร์เรจแคน เชื่อมั่นความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องตรงข้ามธุรกิจ

บริษัทมีจุดแข็งจากการร่วมทุนพันธมิตร ได้แก่ บอลล์(Ball) ยักษ์ใหญ่ระดับโลก เบอร์ลี่ยุคเกอร์(BJC)บิ๊กคอร์ปสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก รวมถึง Standard Can ที่ผลิตกระป๋องเหล็กมากว่า 70 ปี กลายเป็น 3 ผสานพลังทั้งด้านองค์ความรู้ตลาดในประเทศ(Local) ความยืดหยุ่นและสปีดทางธุรกิจ ศักยภาพด้านการประหยัดจากขนาด(Economy of Scale) การสร้างสรรค์นวัตกรรม มาตรฐานและคุณภาพระดับโลก

ปัจจุบันบริษัทมีฐานผลิต 3 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานในไทย 2 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง โดยปี 2569 จะมีการเปิดโรงงานผลิตกระป๋องที่ใหญ่สุดในเอเชีย และมีสายการผลิตใหญ่สุดในโลก

ไทยเบเวอร์เรจแคน เชื่อมั่นความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องตรงข้ามธุรกิจ

ทั้งนี้ มักมองความยั่งยืนกับธุรรกิจไปด้วยกันไม่ได้ เนื่องจากการทำเรื่องชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือ Carbon offset มีต้นทุนแพง และไม่ทำกำไร แต่บริษัทเห็นต่าง เพราะเชื่อว่า 2 องค์ประกอบทำควบคู่กันได้ และเป็นสิ่งที่ ไทยเบเวอร์เรจแคน ทำมาตลอด ซึ่งจะสำเร็จได้ต้องเกิดจากการรวมพลังกับผู้บริโภค คู่ค้าพันธมิตร ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยมีการดื่มเครื่องดื่มภายใต้บรรจุภัณฑ์ 82 ล้านหน่วยต่อวัน กลายเป็นขยะ 53 ล้านหน่วยต่อวัน มีผู้บริโภค 61% ได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคยังมองหาบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากไมโครพลาสติก ดังนั้น ภารกิจที่ไทยเบเวอร์เรจแคน จึงมุ่งมั่นพัฒนาบรรจุภัณฑ์กระป๋อง เพื่อลดปริมาณขยะโดยเฉพาะใช้แล้วทิ้ง(Single use)ให้น้อยลง ควบคู่ต้องทำให้การบริโภคสินค้าเติบโตขึ้น

“ในฐานะผู้นำ เราจำเป็นต้องผลักดันธุรกิจเติบโต และต้องตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม การขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วย”

หนึ่งในพันธกิจสำคัญคือการทำ Closed-Loop Recycling หรือกระบวนการรีไซเคิลวัสดุที่ใช้แล้วให้คุณสมบัติเคมีเหมือนเดิมมากสุด เช่น การนำกระป๋องอะลูมิเนียมมารีไซเคิล มีการผนึกพันธมิตรกว่า 100 แบรนด์เพื่อเก็บกลับ คนเก็บขยะสามารถรำไปขายเสริมรายได้ การรีไซเคิลที่ทำลายแบคทีเรียได้ 100% ผ่านการต้มอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียล เป็นต้น ระบบนิเวศเหล่านี้ ล้วนมีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจก และสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ เพราะในเชิงเก็บกลับช่วยลดพลังงานได้ 95% ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 97% ยังสร้างรายได้ให้ผู้เก็บขยะ 1,460 ล้านบาท

ไทยเบเวอร์เรจแคน เชื่อมั่นความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องตรงข้ามธุรกิจ

“ไทยคือหนึ่งใน 4 ประเทศที่ทำระบบนิเวศของอะลูมิเนียม Closed-Loop Recycling ได้ ซึ่งช่วยสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ผู้บริโภคด้วยมิชชั่นของเรา อย่างไรก็ตาม เราจะไม่หยุดเดินหน้าความยั่งยืน ประเทศไทยมีการใช้กระป๋องอะลูมิเนียมกว่า 4,000 ล้านหน่วย เราหวังจะเก็บกลับสู่ระบบนิเวศเราทั้งหมด และปีหน้าเราจะเปิดโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมแสงอาทิตย์ 100% ด้วย”