3 ธ.ค. วันคนพิการสากล มุ่งยกระดับทักษะ-เข้าถึงสวัสดิการ

ด้วยองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็น "วันคนพิการสากล" กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในรูปแบบต่างๆ
เพื่อร่วมกันยกระดับความตระหนักรู้และส่งเสริมสิทธิคนพิการในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญในการจัดงานวันคนพิการสากลมาอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2568 องค์การสหประชาชาติได้กำหนดประเด็นหลัก คือ “การส่งเสริมสังคมที่ครอบคลุมและเอื้อต่อคนพิการ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าและการพัฒนาทางสังคมอย่างยั่งยืน” (Fostering disability inclusive societies for advancing social progress)
สำหรับงานวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 นั้น มีรูปแบบงานและกิจกรรมที่สอดคล้องกับประเด็นหลัก (Theme) ขององค์การสหประชาชาติ และคำนึงถึงการเข้าถึงงานและรองรับคนพิการทุกประเภทอย่างทั่วถึง โดยมีกิจกรรมสำคัญที่น่าสนใจ อาทิ 1.พิธีมอบรับโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแก่คนพิการ และหน่วยงาน องค์กรที่มีการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประจำปี 2568
2. พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ(MOU) ว่าด้วยการส่งเสริมระบบขนส่ง เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพ เพื่อขยายโอกาสในการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้สำหรับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ระหว่าง กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวง พม. กับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
3. การอ่านสารวันคนพิการสากล ประจำปี 2568 โดย UN Resident Coordinator และนายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และ4. กิจกรรม Kick off เปิดตัว “ภารกิจเร่งสร้างคุณภาพชีวิตคนพิการ”
สำหรับการจัดงานวันคนพิการ ประจำปี 2568 ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ นั้น มีการดำเนินการตามกรอบแนวทางการจัดงานที่มีความสอดคล้องกับประเด็นหลัก (Theme) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งกำหนดจัดงานในช่วงเดือนธ.ค.2568 - ม.ค. 2569 ในลักษณะบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานในระดับพื้นที่และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และศูนย์บริการคนพิการจังหวัด 76 จังหวัด ร่วมกับจังหวัดบูรณาการจัดงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
“งานใหญ่ที่ให้ความสำคัญ พร้อมให้โอกาสกลุ่มคนพิการในการแสดงศักยภาพ โดยมุ่งเน้นความเท่าเทียมกัน และการ Upskill และ Reskill ด้านทักษะส่งเสริมอาชีพของคนพิการ อีกทั้งภาคีเครือข่ายองค์กรด้านคนพิการมีส่วนร่วมในการจัดบูธแสดงผลงานการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ อาทิ กายอุปกรณ์ และเทคโนโลยี Support การดำรงชีวิตคนพิการ”
สำหรับนโยบาย Quick Win ของรัฐบาลนั้นนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า ได้ขับเคลื่อนงานสอดรับกับนโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะการดูแลคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกัน และในเร็วๆ นี้ กระทรวง พม. จะมีผลงานชิ้นสำคัญที่เกี่ยวกับนโยบายหลักของกระทรวง พม. ในการดูแลกลุ่มคนพิการ คือ การปรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประเมินความพิการ ซึ่งตนเชื่อว่ายังมีกลุ่มคนพิการที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐ อาทิ ตาบอดข้างเดียว ที่ถูกประเมินทางการแพทย์ไม่ให้ได้รับบัตรประจำตัวคนพิการ
โดยปัญหานี้ จะถูกนำมาแก้ไข โดยให้แก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประเมินความพิการ ไม่ใช่ยึดเกณฑ์ประเมินทางการแพทย์อย่างเดียว แต่ให้พิจารณามิติทางสังคมด้วย เพื่อจะให้การเข้าถึงสิทธิสวัสดิการภาครัฐโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ การปรับหลักเกณฑ์ดังกล่าว อยู่ระหว่างการเสนอร่างประกาศกระทรวง พม. ฉบับใหม่ ซึ่งปลัดกระทรวง พม.ได้นำเสนอแล้ว คาดว่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
นอกจากนี้ เรื่องการปรับเบี้ยความพิการ จาก 800 บาท เป็น 1,000 บาทถ้วนหน้า ขณะนี้ได้เสนอเข้าสู่วาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบกลาง จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 สำหรับกลุ่มคนพิการที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มเป็น 1,000 บาท จาก 800 บาท และจะพยายามผลักดันให้ได้รับเบี้ยความพิการ 1,000 บาทถ้วนหน้าทุกปี







