‘SABIC’ ปฏิวัติวงการเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าคาร์บอนเป็นกลาง พัฒนาบ้านใช้พลังงานเป็นศูนย์

‘SABIC’ ปฏิวัติวงการเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าคาร์บอนเป็นกลาง พัฒนาบ้านใช้พลังงานเป็นศูนย์ ‘SABIC’ ปฏิวัติวงการเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าคาร์บอนเป็นกลาง พัฒนาบ้านใช้พลังงานเป็นศูนย์
KEY
POINTS
- SABIC ตั้งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ผ่านโครงการเศรษฐกิจหมุนเวียน TRUCIRCLE™ และโรงงานดักจับคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- สร้าง "Home of Innovation™" ต้นแบบบ้านพักอาศัยที่ใช้พลังงานสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Energy House) แห่งแรกในตะวันออกกลาง โดยใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์
- พัฒนานวัตกรรมวัสดุเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมอื่น เช่น วัสดุน้ำหนักเบาและทนไฟสำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแผงโซลาร์เซลล์จากโพลิเมอร์ 100%
Saudi Basic Industries Corporation หรือที่รู้จักในนาม “SABIC” หนึ่งในองค์กรผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1976 ที่ซาอุดีอาระเบีย บริษัทก็ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาวัสดุใหม่ ๆ ปรับปรุงกระบวนการผลิต และสร้างสรรค์โซลูชันที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตโดยรวมของบริษัท
จนในปัจจุบัน SABIC เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่เป็นที่ต้องการเป็นอันดับสองของโลก ด้วยมูลค่าแบรนด์สูงถึง 4,500 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทดำเนินธุรกิจผ่าน 4 กลุ่มหลัก ซึ่งต่างมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เคมีภัณฑ์หลากหลายชนิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงโพลิเมอร์หลายประเภท ทั้งผลิตภัณฑ์โภคภัณฑ์และโพลิเมอร์เชิงวิศวกรรม
ตลอดจน เคมีภัณฑ์พิเศษซึ่งเกิดจากการรวมโพลิเมอร์หลายชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับใช้งานฉพาะทาง โดยมีชื่อทางการค้า เช่น STAMAX™ และ CYCOLOY™ ที่เป็นเคมีภัณฑ์พิเศษช่วยเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการเปลี่ยนสีของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ ยังมีโภชนาการทางการเกษตรช่วยบำรุงพืช เช่น ยูเรีย แอมโมเนีย และปุ๋ยพิเศษ (MBK) ช่วยสร้างความยั่งยืน เพราะช่วยลดการใช้น้ำในการเพาะปลูก ส่งเสริมให้พืชเติบโตเร็วขึ้นและให้ผลผลิตมากขึ้น
ผลิตภัณฑ์ของ SABIC ใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันหลากหลายชนิด ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้อาหารสดใหม่ วัสดุที่เพิ่มความปลอดภัยของรถยนต์ ชิ้นส่วนในสมาร์ทโฟน ไปจนถึงโซลูชันด้านสุขอนามัยและการดูแลสุขภาพ ทั้งเตียงผู้ป่วย เก้าอี้ และอุปกรณ์เทียม
รวมถึงวัสดุสำหรับเครื่องมือขนาดเล็ก เช่น ปากกาสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน (diabetic pen) และอุปกรณ์ตรวจวัดน้ำตาลในเลือด ตลอดจนสายเคเบิลชนิดต่าง ๆ และอุปกรณ์เครื่องจักรในอุตสาหกรรม
เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจเหล่านี้ SABIC มีเครือข่ายศูนย์วิจัย 20 แห่งทั่วโลก และศูนย์แอปพลิเคชันอีก 4 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่ในเซี่ยงไฮ้ บังกาลอร์ เนเธอร์แลนด์ และซาอุดีอาระเบีย โดยครอบคลุมส่วนงานสำคัญ เช่น พลังงานหมุนเวียน การขนส่ง การดูแลสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์
เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม
ธุรกิจการผลิตพลาสติกและเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้โลกร้อนมากที่สุด บริษัททั้งหลายในอุตสาหกรรมจึงตั้งเป้าบรรลุลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง สำหรับ SABIC กำหนดเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียที่ตั้งไว้ในปี 2060
ความพยายามหลักขององค์กรในการลดการปล่อยคาร์บอน เริ่มต้นจากการเป็นผู้บุกเบิกโซลูชันเศรษฐกิจหมุนเวียนชั้นนำของอุตสาหกรรม ผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ TRUCIRCLE™
รวมถึงสร้างโรงงานดักจับและใช้ประโยชน์จากคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ในการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 500,000 เมตริกตันต่อปี โดยคาร์บอนที่ดักจับมาได้จะถูกนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์ เช่น สารเคมี ปุ๋ย และเชื้อเพลิง
ขณะเดียวกัน ก็สามารถนำมาผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำที่ได้รับการรับรองใหม่ เช่น เมทานอลคาร์บอนต่ำ ซึ่งมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ SABIC ยังได้ส่งมอบ แอมโมเนียคาร์บอนต่ำ ไปยังเอเชีย เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าแบบไร้คาร์บอน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การใช้ไฮโดรเจนอย่างยั่งยืน
ในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน SABIC มีโซลูชันการรีไซเคิลที่หลากหลาย เช่น การรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycle) เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ใช่การสัมผัสอาหาร และที่สำคัญคือ การรีไซเคิลขั้นสูง (Advanced Recycle) ช่วยเปลี่ยนวัสดุรีไซเคิลให้เป็นน้ำมันไพโรไลซิส และนำไปผ่านกระบวนการไฮโดรทรีทเมนต์ เพื่อเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบตั้งต้นใหม่ที่สามารถสัมผัสอาหารได้
SABIC ยังคงขับเคลื่อนนวัตกรรมวัสดุเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการขนส่งผ่านโครงการ Bluehero ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาวัสดุและโซลูชันที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้า มีน้ำหนักเบาและปลอดภัยยิ่งขึ้น วัสดุของ SABIC ถูกนำไปใช้ในทุกส่วนของรถยนต์ EV ทั้งภายนอกและภายใน
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ การพัฒนาวัสดุพิเศษ STAMAX™ สารประกอบที่ใช้ใยแก้วและสารหน่วงไฟ ซึ่งได้รับการอนุมัติและทดสอบสำหรับการใช้ในส่วนห่อหุ้มแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีคุณสมบัติทนทานต่อไฟและน้ำหนักเบา แม้จะถูกเผาไหม้ที่อุณหภูมิ 1,200 องศาเซลเซียสนานถึง 5 นาทีก็ยังไม่หดตัว
นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาแผงโซลาร์เซลล์รุ่นใหม่ที่ทำจาก โพลิเมอร์ 100% แทนการใช้กระจก วัสดุนี้มีน้ำหนักลดลงกว่าเดิมถึง 50% ติดตั้งง่าย และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (รีไซเคิล) ได้ 100% รวมถึงยังมีสิทธิบัตรที่ได้รับอนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณามากกว่า 11,000 ฉบับ โดยมีการยื่นขอสิทธิบัตรใหม่กว่า 220 ฉบับในปี 2024
ความมุ่งมั่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่นนี้ ทำให้ SABIC ได้รับรางวัล Edison Awards 6 รางวัลในปีล่าสุด สำหรับความสำเร็จในด้านยานยนต์ ปุ๋ยเกษตร และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
Home of Innovation™ (HOI)
Home of Innovation™ (HOI) ต้นแบบการใช้พลังงานสุทธิเป็นศูนย์
SABIC ก็ตั้ง Home of Innovation™ (HOI) ขึ้นมาเพื่อเป็นสถานที่และแพลตฟอร์มในการรวบรวมพันธมิตรทั้งระดับโลกและระดับท้องถิ่น เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ และเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างการวิจัยกับการนำไปประยุกต์ใช้ในตลาด พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 ในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญและสร้างอุปสงค์ปลายน้ำภายในประเทศ
ปัจจุบันมีบริษัท 44 แห่งจาก 12 ประเทศเข้าร่วมโครงการนี้ โดย HOI มีพื้นที่รวม 3,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ความร่วมมือ ศูนย์สาธิตประสิทธิภาพสูง และพื้นที่จัดแสดงเทคโนโลยี
ศูนย์สาธิตของ HOI ถือเป็นอาคารที่พักอาศัยแห่งแรกในตะวันออกกลางที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED-Platinum และสามารถบรรลุเป้าหมายการเป็น Net Zero Energy House ซึ่งหมายถึงปริมาณพลังงานที่อาคารผลิตได้จะต้องมากกว่าปริมาณที่บริโภค
ปรัชญาการออกแบบของ HOI สอดคล้องกับหลักการ “4R” (Reduce, Reuse, Recycle, Remove) เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและการขจัดของเสีย และยังรวบรวมแนวคิด “3C” ได้แก่ Connectivity (การเชื่อมต่อทั้งภาพและดิจิทัลผ่านระบบดิจิทัล 12 ระบบที่เชื่อมโยงถึงกัน), Comfort (สร้างความสะดวกสบายและคุณภาพอากาศที่ดีเยี่ยม), และ Conservancy (การอนุรักษ์พลังงานและการบรรลุสมดุลพลังงานสุทธิเป็นศูนย์)
ด้วยเหตุนี้ HOI จึงประหยัดพลังงานประมาณ 40% และลดการใช้น้ำได้เกือบ 100 ลิตรต่อคนต่อวัน การประหยัดพลังงานนี้เป็นผลจากการบูรณาการ 4 ระบบหลัก ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคารที่ใช้โครงสร้างแบบ ICF (Insulated Concrete Wall) มีโพลิสไตรีน เป็นส่วนประกอบ ทำให้บ้านมีฉนวน 100% ช่วยลดภาระการทำความเย็นลงอย่างมาก เนื่องจากในซาอุดีอาระเบีย ค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้ากว่าร้อยละ 70 มาจากการทำความเย็น
ขณะที่ ระบบปรับอากาศใช้เทคโนโลยี Energy Recovery Ventilator (ERV) ทำหน้าที่เป็นเครื่องแลกเปลี่ยนอากาศเพื่อลดอุณหภูมิอากาศร้อนจากภายนอก ก่อนเข้าสู่ระบบปรับอากาศปกติ ทำให้ลดการใช้พลังงานทำความเย็นได้ประมาณ 30% นอกจากนี้
คุณภาพอากาศภายในอาคารถูกควบคุมให้อยู่ในระดับคาร์บอนต่ำมาก อยู่ระหว่าง 400-600 ppm เทียบเท่ากับมาตรฐานโรงพยาบาลสะอาด โดยมีการนำอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในบ้านอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 88 แผงบนหลังคา โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 48 เมกะวัตต์ชั่วโมง แต่ใช้ไปเพียง 43 เมกะวัตต์ชั่วโมง ทำให้มีพลังงานส่วนเกิน 5 เมกะวัตต์ชั่วโมง ส่วนน้ำที่ใช้แล้วจากฝักบัวและอ่างล้างมือไปรีไซเคิล เพื่อใช้นำไปใช้ภายนอกอาคาร ช่วยประหยัดน้ำได้มากถึง 40%
SABIC ในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบตั้งต้นทางเคมีและวัสดุ ได้ใช้เครือข่ายศูนย์วิจัยและนวัตกรรมระดับโลกเพื่อผลักดันการพัฒนาที่สำคัญในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การสร้างศูนย์สาธิต Home of Innovation ไปจนถึงการบุกเบิกโรงงานดักจับคาร์บอนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตลอดจนการพัฒนาวัสดุที่ช่วยให้ยานยนต์ไฟฟ้าปลอดภัยขึ้น แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการจัดหาโซลูชันที่จำเป็น เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ







