กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

"กฟผ." ชู "Triple Strategy" นำทางพลังงานยั่งยืน สู่เป้า Net Zero ปี 2050 พร้อมเดินหน้าโครงการโซลาร์ลอยน้ำ และโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด

นายเอกรัฐ สมินทรปัญญา ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของ กฟผ. ในหัวข้อ Special Talk: EGAT’s Path to a Sustainable Energy Future ในงานสัมมนา SUSTAINABILITY FORUM 2026 Shift Forward: Overcoming Challenges จัดโดย "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า บทบาทขององค์กรในการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) นั้น

ปัจจุบัน สัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศอยู่ที่ประมาณ 20% โดยแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าหลักยังคงมาจากก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน รวมถึงพลังงานน้ำจากเขื่อน กฟผ. และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เช่น โซลาร์เซลล์ และกังหันลม อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของโลก และทิศทางพลังงานของไทยกำลังมุ่งไปสู่พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

นายเอกรัฐ กล่าวถึงการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับปรับปรุงใหม่ว่า มีแนวโน้มจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนจาก 26% เป็น 51% ในฐานะหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ผลิต จัดหา ส่ง และขายพลังงานไฟฟ้า รวมถึงการรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศ กฟผ. ได้กำหนดกลยุทธ์ "Triple S" เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทาง Carbon Neutrality และ Net Zero Emission ของประเทศ ดังนี้

1. Sources (แหล่งผลิต) การเปลี่ยนรูปแบบการผลิตไฟฟ้า จากโรงไฟฟ้าฟอสซิลที่มีกระบวนการเผาไหม้ไปสู่พลังงานหมุนเวียนให้มากยิ่งขึ้น 2. Sinks (การดูดซับ) การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในบรรยากาศ เพื่อจัดเก็บ และลดปริมาณจากระบบให้มากที่สุด และ 3. Support (การสนับสนุน) การสนับสนุนกิจกรรมของผู้บริโภค และผู้ใช้ไฟฟ้าให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ในส่วนของแหล่งผลิตนั้น กฟผ. จะดำเนินการผ่านโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ (Floating Solar) ถือเป็นโครงการสำคัญที่ กฟผ. ดำเนินการ รูปแบบโครงการคือ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำ โดยข้อดีของโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ ได้แก่ ไม่ต้องซื้อที่ดินแต่ใช้ประโยชน์จากบริเวณผิวอ่างเก็บน้ำในเขื่อน กฟผ. ที่มีอยู่แล้วทั่วประเทศ, ลดการระเหยของน้ำจากอ่างเก็บน้ำโดยตรง ทำให้มีน้ำใช้มากขึ้น

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

นอกจากนี้ ยังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะที่โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งช่วยให้ชุมชนรอบพื้นที่โครงการมีโอกาสขายสินค้าพื้นเมือง โดยปัจจุบัน โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 2 โครงการ จากจำนวนทั้งหมด 16 โครงการ

นอกจากนี้ เพื่อจัดการกับความผันผวนของพลังงานหมุนเวียน (เช่น โซลาร์เซลล์ ซึ่งผลิตได้น้อยเมื่อไม่มีแสงแดดหรือฝนตก, และกังหันลม) กฟผ. ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมความเสถียรของระบบ อาทิ 

1. โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ (Pumped Hydro Storage) ทำงานโดยการนำไฟฟ้าส่วนเกินในช่วงกลางวัน (เช่น จากโซลาร์เซลล์) มาสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำด้านล่างขึ้นไปเก็บไว้ในอ่างด้านบน เมื่อถึงช่วงที่มีความต้องการไฟฟ้าสูง เช่น กลางคืนที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศหรือชาร์จรถยนต์จำนวนมาก ก็จะปล่อยน้ำจากอ่างบนลงมาผลิตพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ระบบ

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

2. ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System - BESS) มีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อช่วยเสริมระบบเมื่อเกิดความผันผวนของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน ตัวอย่างการติดตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดลพบุรี นอกจากนี้ยังมีโครงการ "Smart Grid" ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่สามารถผลิต และอยู่ได้ด้วยตนเองโดยไม่พึ่งระบบใหญ่

นายเอกรัฐ กล่าวถึงเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าในอนาคตที่ กฟผ. ให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยมลภาวะเนื่องจากไม่มีกระบวนการเผาไหม้ คือ 1. SMR (Small Modular Reactor) หรือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก มีการออกแบบเพื่อแก้ไข และลดข้อกังวลด้านความเสี่ยง และความปลอดภัยที่เคยเกิดในอดีต เนื่องจากเครื่องปฏิกรณ์มีขนาดเล็กลง อุปกรณ์หลักที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์จึงสามารถผลิต และประกอบในรูปแบบเซตสำเร็จรูปที่โรงงานได้ 

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

ทั้งนี้ ทำให้การควบคุมคุณภาพ และความปลอดภัยทำได้ง่ายกว่า และดีกว่าการประกอบชิ้นส่วนใหญ่ที่หน้างาน กฟผ. ได้ส่งพนักงานไปเรียนรู้ และอบรมเทคโนโลยี SMR ของนานาประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมหาก SMR ถูกบรรจุในแผน PDP ฉบับใหม่

2. โรงไฟฟ้าพลังงานไฮโดรเจน ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยมลสารใดๆ ออกมาในกระบวนการผลิต

ในส่วนของการดูดซับ นอกเหนือจากการใช้เทคโนโลยี Carbon Capture Storage (CCS) แล้ว กฟผ. ยังใช้พื้นที่ป่าไม้ และต้นไม้บริเวณรอบโครงการต่างๆ เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเช่นกัน

สำหรับการสนับสนุนนั้น กฟผ. ได้ดำเนินการโครงการ "ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5" มาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี ตั้งแต่ปี 2538 ฉลากเบอร์ 5 ไม่เพียงแต่บ่งบอกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ และประหยัดไฟ แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย ทั้งนี้ การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซ และนำไปสู่ความยั่งยืนของโลกมากขึ้น

กฟผ. เดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยีสะอาด ดันไทยสู่เป้า Net Zero

"การขับเคลื่อนกลยุทธ์ Triple S ของ กฟผ. จึงเปรียบเสมือนการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือขนาดใหญ่ จากการใช้เชื้อเพลิงแบบเดิมไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้การเดินทางของระบบพลังงานของประเทศมีความมั่นคง ปลอดภัย และบรรลุจุดหมายปลายทางของความเป็นกลางทางคาร์บอนในที่สุด"

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์