ไทยลุ้น พ.ร.บ. ลดโลกร้อน ฉบับแรก เตรียมชง ครม. อีกครั้ง 25 พ.ย. หลังรอคอยยาวนาน

ไทยลุ้น พ.ร.บ. ลดโลกร้อน ฉบับแรก เตรียมชง ครม. อีกครั้ง 25 พ.ย. หลังรอคอยยาวนาน

กรมลดโลกร้อนเตรียมเสนอ "ร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

KEY

POINTS

  • กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ เตรียมเสนอ "ร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ซึ่งเป็นกฎหมายโลกร้อนฉบับแรกของไทย ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้
  • ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหา 205 มาตรา มุ่งวางกรอบการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศ ทั้งมาตรการบังคับและสนับสนุน เช่น ตลาดคาร์บอน และการคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่หมุดหมายสำคัญของการรับมือวิกฤติโลกร้อน เมื่อกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมเสนอ ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นกฎหมายสภาพภูมิอากาศฉบับแรกของไทย และถูกจับตาอย่างมากจากทั้งภาคธุรกิจ นักกฎหมาย และภาคประชาชน

กฎหมายสภาพภูมิอากาศฉบับแรกของไทย 205 มาตรา วางระบบครบทั้งบังคับและสนับสนุน

ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มีความยาว 205 มาตรา แบ่งเป็น 14 หมวด ครอบคลุมทั้งกลไกการกำกับดูแล การวัด–รายงาน–ทวนสอบ (MRV) ตลาดคาร์บอน มาตรการปรับตัวต่อภัยพิบัติ การคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง และการจัดการด้านเงินทุนสภาพภูมิอากาศ

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พา อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวไว้ว่า การร่างกฎหมายไม่ได้ใช้แนวคิด “คัดลอกกฎหมายต่างประเทศ” แต่มุ่งเน้นการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อให้เหมาะสมกับ บริบทของประเทศไทย โดยมีความตั้งใจจะวางสมดุลระหว่าง "ข้อผูกมัด" ที่ภาคธุรกิจจำเป็นต้องปฏิบัติ และ "ระบบสนับสนุน" เช่น เงินทุน เทคโนโลยี และการปรับตัวในชุมชน

เป้าหมายสำคัญ คือ รักษาขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ขณะเดียวกันก็สร้าง ภูมิคุ้มกันทางสังคม ต่อความเสี่ยงและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
 

ภาพสะท้อนความท้าทายของ พ.ร.บ. ใหม่

"ดร.พิรุณ" ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การผลักดันกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยเป็นเรื่องท้าทาย ตัวอย่างชัดเจนคือ

  • พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มีการพยายามปรับปรุงแก้ไขมานานกว่า 5 ปี แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาอย่างสมบูรณ์ จึงยังคงใช้ฉบับเดิมเป็นหลักอยู่
  • ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ที่กำลังอยู่ในวุฒิสภา ก็เผชิญข้อวิจารณ์ด้านความละเอียดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้กฎหมายแข็งตัว (rigid) และบังคับใช้ได้ยากในทางปฏิบัติ

ข้อเท็จจริงเหล่านี้สะท้อนว่า การเดินหน้าพ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งนี้ ต้องอาศัยทั้งฉันทามติ การมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการเชิงนโยบายที่รอบคอบ เพื่อไม่ให้กฎหมายติดขัดอยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติเช่นในอดีต

ความหวังของไทยต่อเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ

ร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถูกคาดหวังให้เป็น “โครงสร้างพื้นฐานทางนโยบาย” ที่จะผลักดันไทยไปสู่ Net Zero ระบบตลาดคาร์บอนที่แข็งแรง การคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากโลกร้อน และการจัดการความเสี่ยงด้านสภาพอากาศในทุกระดับตั้งแต่ท้องถิ่นถึงประเทศ

ภาคเอกชนจำนวนมากจับตาว่า พ.ร.บ. ใหม่จะกำหนดข้อผูกมัดเรื่อง MRV, Scope 1–3 และกลไกตลาดอย่างไร ขณะที่ภาคประชาชนสนใจมาตรการป้องกันภัยพิบัติ การเตือนภัยล่วงหน้า และการคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง

25 พ.ย. โอกาสกฎหมายโลกร้อนฉบับแรกของไทย

หากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ร่างกฎหมายจะเพียงเข้าสู่ขั้นเริ่มต้นของกระบวนการออกกฎหมายเท่านั้น โดยต้องผ่านทั้งการรับฟังความคิดเห็น การพิจารณาของรัฐสภา และการลงมติในหลายวาระ ก่อนจะประกาศใช้ได้จริง กระบวนการทั้งหมดนี้ถือเป็นเส้นทางสำคัญสู่การมี “กฎหมายโลกร้อนฉบับแรกของไทย” อย่างเป็นทางการในอนาคต

ในสถานการณ์ที่ไทยเผชิญทั้งฝุ่นควัน ภัยพิบัติสภาพอากาศสุดขั้ว ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจาก CBAM และกติกาสีเขียวโลก พ.ร.บ. ฉบับนี้จึงไม่ใช่เพียงกฎหมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการวาง “กรอบเสถียรภาพใหม่” ให้ประเทศสามารถปรับตัวและแข่งขันในโลกหลังโลกร้อนได้ยั่งยืน