‘อินเดีย’ ประท้วง เรียกร้องรัฐกำจัด ‘มลพิษทางอากาศ’ หลังค่าฝุ่นพุ่งสูงต่อเนื่อง

อากาศดีกลายเป็นพริวิเลจ ชาวอินเดียประท้วง เรียกร้องรัฐกำจัดมลพิษทางอากาศ หลังค่าฝุ่นพุ่งสูง กลายเป็นปัญหาซ้ำซากที่ต้องเจอทุกปี
KEY
POINTS
- ประชาชนในกรุงนิวเดลีรวมตัวประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง หลังค่าฝุ่นพุ่งสูงถึงระดับอันตรายต่อเนื่อง
- สาเหตุหลักของวิกฤตมาจากควันจากการเผาเศษพืชผลทางการเกษตร มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและยานพาหนะ ซึ่งถูกสภาพอากาศนิ่งในช่วงฤดูหนาวกักไว้
- แพทย์ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข เนื่องจากมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ทำให้มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หัวใจ และปอดเพิ่มขึ้น
- ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีมาตรการแก้ไขที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน แทนการใช้มาตรการชั่วคราวที่ถูกมองว่าไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะยาวได้
ฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศ กลับมาปกคลุมกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียอีกครั้ง ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงบนท้องถนน ขณะที่แพทย์เตือนถึงภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่กำลังเลวร้ายลง
นักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า หมอกควันฤดูหนาวที่เลวร้ายลงในเดลีสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวเชิงโครงสร้างที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น ตั้งแต่การปล่อยมลพิษและการเผาพืชผลทางการเกษตรที่ไม่ได้รับการควบคุม ไปจนถึงการประสานงานในระดับภูมิภาคที่อ่อนแอ พวกเขากล่าวเสริมว่า คุณภาพชีวิตของคนในประเทศกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากอากาศที่นิ่งสงบตามฤดูกาลทำให้มีอนุภาคพิษสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณภาพอากาศในเขตเมืองหลวงของประเทศอยู่ในช่วง “แย่มาก” และ “อันตราย” จนแพทย์ต้องเรียกสถานการณ์นี้ว่าเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ตามรายงานของ Climate Trends บริษัทวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม
“สำหรับเดลี นี่ไม่ใช่แค่วิกฤติสิ่งแวดล้อม แต่มันคือปัญหาความเป็นอยู่และความท้าทายที่เมืองนี้ต้องเผชิญทุกปี อากาศเป็นพิษแทรกซึมเข้าสู่บ้านเรือน โรงเรียน และสถานที่ทำงาน คุกคามคุณภาพชีวิต” รายงานระบุ
คุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่ประตูอินเดีย อนุสรณ์สถานสงครามสำคัญของเมือง เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ หลายคนสวมหน้ากากอนามัยและถือป้าย โดยมีข้อความหนึ่งเขียนว่า “ฉันคิดถึงการหายใจ” ขณะที่บางคนเขียนว่า “ถ้าอากาศเป็นของฟรี ทำไมการหายใจจึงเป็นสิทธิพิเศษ?”
ต่อมาตำรวจได้ยึดป้ายและแบนเนอร์ และขอให้ผู้ประท้วงสลายการชุมนุม โดยระบุว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ชุมนุม
เครดิตภาพ: REUTERS/Adnan Abidi
มลพิษทางอากาศรุนแรงถึงขั้นที่ต้องพิจารณาคดีผ่านแพลตฟอร์มเสมือนจริงแทนการมาศาล โดยศาลฎีกาอินเดียระบุว่าสถานการณ์นี้ “ร้ายแรงมาก”
“มลพิษทางอากาศนี้จะก่อให้เกิดความเสียหายถาวร แม้แต่หน้ากากอนามัยก็เอาไม่อยู่” ผู้พิพากษา พี. เอส. นาราซิมฮา กล่าวตามสื่อท้องถิ่น
ทุกฤดูหนาว กรุงนิวเดลีและพื้นที่โดยรอบจะปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาทึบ ผลจากการเผาเศษพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกร ประกอบกับมลพิษจากอุตสาหกรรมและยานพาหนะ ด้วยอุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้มลพิษเหล่านี้ปกคลุมเส้นขอบฟ้าของเมือง
พรรค AAP อดีตพรรครัฐบาลของเดลี ซึ่งพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ให้กับพรรค BJP ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย กล่าวหารัฐบาลว่าบิดเบือนข้อมูลมลพิษเพื่อปกปิดความรุนแรงของปัญหา และได้โพสต์ภาพประตูอินเดียบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าแทบมองไม่เห็นในเวลากลางวันแสก ๆ
พรรค BJP ได้โต้กลับ พร้อมกล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะตอนที่พรรค AAP เป็นรัฐบาลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่นควันนี้ได้ ปล่อยให้สะสมมาเรื่อย ๆ จนสถานการณ์รุนแรงไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันสั้น แม้ว่ารัฐบาลชุดก่อนจะพยายามทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมแล้วก็ตาม
ปริยังกา คานธี วาทระ ผู้นำคนสำคัญของพรรคคองเกรส พรรคฝ่ายค้านหลักของอินเดีย กล่าวว่าการเดินทางกลับเดลีจากเขตเลือกตั้งของเธอในวายานาด รัฐเกรละ ว่าเหมือนเดินเข้าห้องรมแก๊ส
“มลพิษในเดลีแย่ลงทุกปี เราควรร่วมมือกันหาทางออกเพื่ออากาศที่สะอาดขึ้น ประชาชนแทบจะหายใจไม่ได้เลย โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เราต้องทำอะไรสักอย่าง” เธอเขียนบนโซเชียลมีเดีย
เครดิตภาพ: REUTERS/Anushree Fadnavis
ประชาชนยังแสดงความไม่พอใจ โดยกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถส่งลูก ๆ ไปเล่นที่สนามเด็กเล่นและสวนสาธารณะได้เพราะมลพิษ
“พวกเราในฐานะพ่อแม่ กังวลเกี่ยวกับปอดของลูก ๆ แลกเวลาเล่นเพื่อความปลอดภัย แลกธรรมชาติกับเครื่องฟอกอากาศ นี่ไม่ใช่วัยเด็กที่เราใฝ่ฝันสำหรับพวกเขา ถึงเวลาแล้วสำหรับอากาศที่สะอาด เดี๋ยวนี้!” ผู้ใช้รายหนึ่งเขียนบนโซเชียลมีเดีย
นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศกล่าวว่า การเรียกร้องของประชาชนให้ทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมถือเป็นพัฒนาการที่น่ายินดี เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ
“ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เราได้เห็นงานวิจัยเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศได้รับความสนใจจากประชาชน เพื่อสร้างแรงกดดันต่อสาธารณชนให้ต้องการอากาศที่สะอาด เราต้องสร้างความคิดเห็นสาธารณะที่วิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนจำเป็นต้องเข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้ นำเสนอแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืนและเป็นธรรม” อาร์ตี โคสลา ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Climate Trends กล่าว
แพทย์เตือนว่าระดับคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ของอินเดีย เป็นปัญหาที่ไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะการสัมผัสมลพิษทางอากาศอย่างต่อเนื่องนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ สมอง และปอด จนมีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
“ทุกลมหายใจในเขตเมืองหลวง มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สำคัญ เราเห็นผู้ป่วยจำนวนมากขึ้นที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการหายใจลำบาก โรคหอบหืด และโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง” ดร. ฮาร์ชัล ราเมช ซัลเว จากศูนย์การแพทย์ชุมชน สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ออลอินเดีย ในกรุงเดลี กล่าว
เครดิตภาพ: REUTERS/Bhawika Chhabra
ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีแนวทางแก้ไขที่ครอบคลุม โดยกระตุ้นให้หน่วยงานในรัฐต่าง ๆ รวมถึงรัฐปัญจาบ รัฐหรยาณา รัฐเดลี และรัฐอุตตรประเทศ จัดการกับมลพิษด้วย เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะหายใจได้อย่างปลอดภัย
หน่วยงานต่าง ๆ สั่งห้ามการก่อสร้างชั่วคราว จำกัดการใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล และแม้กระทั่งลองใช้ฝนเทียม แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นการแก้ที่ปลายเห็น ควรจะต้องแก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งก็คือการลดการปล่อยมลพิษเท่านั้น ถึงจะช่วยบรรเทาปัญหาได้อย่างแท้จริง
รายงาน Countdown on Health and Climate Change 2025 ของวารสารทางการแพทย์ The Lancet ระบุว่า อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศภายนอกอาคารประมาณ 1.72 ล้านคนในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจถึง 38% นับตั้งแต่ปี 2010
ดร.เอส ดี อัตตรี สมาชิกฝ่ายเทคนิคของคณะกรรมาธิการจัดการคุณภาพอากาศ กล่าวว่า ทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมกันลดการปล่อยมลพิษทางอากาศในแหล่งกำเนิดมลพิษสำคัญ ๆ เช่น อุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า ยานพาหนะ และฝุ่นจากการก่อสร้าง
“หากเรามุ่งเน้นไปที่การควบคุมฝุ่นจากถนนและการก่อสร้าง การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ และควันจากแหล่งกำเนิดเหล่านี้ เราก็จะสามารถจัดการกับต้นตอของวิกฤติคุณภาพอากาศได้”
อย่างไรก็ตาม บางครอบครัวย้ายถิ่นฐานจากนิวเดลีไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของอินเดีย ไปหาอากาศที่สะอาดกว่า บางคนที่มีเงินหน่อยก็สามารถหาเครื่องฟอกอากาศและเทคโนโลยีราคาแพงมาใช้ เพื่อบรรเทาปัญหามลพิษ แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ต่อ ทนสูดดมฝุ่นควันแม้จะรู้ดีกว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ที่มา: AP News, South China Morning Post, The New York Times
เครดิตภาพ: REUTERS/Anushree Fadnavis







