‘สุชาติ’ ยันชัด จะไม่ปรับค่ามาตรฐาน “สารหนู” ในแม่น้ำ เท่าประเทศเพื่อนบ้าน

‘สุชาติ’ ยันชัด จะไม่ปรับค่ามาตรฐาน “สารหนู” ในแม่น้ำ เท่าประเทศเพื่อนบ้าน

สุชาติ ชมกลิ่น ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการปรับเพิ่มค่ามาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำผิวดินจาก 0.01 มก./ล. เป็น 0.05 มก./ล. ตามที่เป็นข่าว

KEY

POINTS

  • สุชาติ ชมกลิ่น ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการปรับเพิ่มค่ามาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำผิวดินจาก 0.01 มก./ล. เป็น 0.05 มก./ล. ตามที่เป็นข่าว
  • การยืนยันนี้มีขึ้นเพื่อลดความกังวลของประชาชน หลังมีรายงานการตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำหลายสายทางภาคเหนือ
  • รัฐบาลย้ำว่าจะไม่ลดทอนมาตรฐานความปลอดภัย และมุ่งมั่นที่จะออกมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นกว่าเดิมเพื่อคุ้มครองประชาชนและระบบนิเวศ

วานนี้ (15 พฤศจิกายน) รองนายกรัฐมนตรี สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่า รัฐบาลไม่มีแนวคิดปรับเพิ่มค่ามาตรฐานสารหนูในแหล่งน้ำผิวดิน จาก ไม่เกิน 0.01 มก./ล. เป็น 0.05 มก./ล. ตามที่ปรากฏเป็นข่าว พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมุ่งเดินหน้าออกมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่ “เข้มข้นกว่าเดิม” เพื่อคุ้มครองประชาชนและระบบนิเวศอย่างรอบด้าน

คำยืนยันนี้เกิดขึ้นหลังมีรายงานตรวจพบโลหะหนักและสารหนูเกินค่ามาตรฐานในหลายลำน้ำสำคัญของภาคเหนือ ทั้งแม่น้ำแม่กก แม่น้ำสาย แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน จนเกิดความกังวลว่ารัฐบาลอาจเตรียมปรับเกณฑ์มาตรฐานขึ้นเป็น 0.05 มก./ล. ให้สอดคล้องกับบางประเทศในภูมิภาค

‘สุชาติ’ ยันชัด จะไม่ปรับค่ามาตรฐาน “สารหนู” ในแม่น้ำ เท่าประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม นายสุชาติในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ระบุชัดว่า รัฐบาลจะไม่ลดทอนมาตรฐานความปลอดภัยของประชาชน และจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาอย่างโปร่งใสและเป็นระบบ

“รัฐบาลพร้อมฟังเสียงประชาชน เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าสิ่งแวดล้อมปลอดภัยต่อการใช้ชีวิต ประกอบอาชีพ และฟื้นบรรยากาศเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง”

นายสุชาติอธิบายว่า การกำหนดมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมมลพิษ ปกป้องระบบนิเวศ และลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ โดยรัฐบาลยึดเป้าหมายหลักคือ “ทรัพยากรต้องยั่งยืน เศรษฐกิจต้องเดินไปได้ ประชาชนต้องปลอดภัย”

พร้อมกันนี้ย้ำว่ารัฐบาลจะสนับสนุนการออกมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นว่าทุกพื้นที่ของประเทศจะได้รับการคุ้มครองเต็มที่