COP30: เมื่อวิกฤติสภาพภูมิอากาศ กลายเป็นเรื่องของ "เงิน"

COP30: เมื่อวิกฤติสภาพภูมิอากาศ กลายเป็นเรื่องของ "เงิน"

การประชุม COP30 มุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเงิน โดยคำถามสำคัญคือประเทศพัฒนาแล้วจะส่งมอบเงินทุนสนับสนุนด้านสภาพภูมิอากาศตามคำมั่นสัญญาได้จริงหรือไม่และเมื่อใด

KEY

POINTS

  • การประชุม COP30 มุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเงิน โดยคำถามสำคัญคือประเทศพัฒนาแล้วจะส่งมอบเงินทุนสนับสนุนด้านสภาพภูมิอากาศตามคำมั่นสัญญาได้จริงหรือไม่และเมื่อใด
  • ยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคำมั่นสัญญาและการส่งมอบเงินทุนจริง โดยหลายเป้าหมายสำคัญ เช่น การเพิ่มเงินทุนเพื่อการปรับตัว ยังไม่มีความคืบหน้า

ในห้องประชุมใหญ่ของการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 30 หรือ COP30 ที่เมืองเบเลง ประเทศบราซิล ปีนี้ ไม่ได้อบอวลไปด้วยความตื่นเต้นจากข้อตกลงใหม่ที่เปลี่ยนโลก หากแต่เต็มไปด้วยคำถามสำคัญที่ยังไม่มีคำตอบ “เงินจะมาจริงหรือไม่...และเมื่อไร?”

เพราะแม้ผู้นำโลกต่างร่วมกันประกาศแผน Baku to Belém Roadmap เพื่อระดมเงินทุนด้านสภาพภูมิอากาศไม่น้อยกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปี 2035 แต่สิ่งที่หลายประเทศกำลังรอคอยไม่ใช่คำมั่นใหม่ หากคือ “การส่งมอบจริง” ของคำมั่นเก่าที่โลกเฝ้ารอมานาน

พิมพ์เขียวแห่งความหวัง… หรืออาจจะเป็น “บัญชีสัญญาใหม่” ถ้าทำไม่ได้ก็เหมือน “ติดหนี้” โลกอยู่

บนเวทีเดียวกันนั้น “มุคตาร์ บาบาเยฟ” ประธานปีที่แล้ว (COP29) จากอาเซอร์ไบจาน ได้เดินขึ้นมาพร้อมสิ่งหนึ่งในมือ “ใบแจ้งหนี้” เป็นเอกสารเชิงสัญลักษณ์ที่ออกให้กับ “ประเทศพัฒนาแล้ว” เพื่อเตือนถึงพันธกรณีทางการเงินที่โลกกำลังรออยู่ ภายใต้กรอบ New Collective Quantified Goal (NCQG)

“ถึงเวลาที่ต้องชำระแล้ว” บาบาเยฟกล่าว พร้อมประกาศตัวเลขที่ทุกคนต้องฟัง

ใบแจ้งหนี้ของบาบาเยฟจึงไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบร่วมกัน ยอดรวมไม่น้อยกว่า 345,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็น การเพิ่มเงินทุนเพื่อการปรับตัว 40,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2025 การเพิ่มกองทุนภูมิอากาศของสหประชาชาติ 5,100 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030 และเป้าหมายทางการเงินเบเลง 300,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2035

ในอีกวันของการประชุม ผู้แทนจาก กลุ่ม G77 + China ลุกขึ้นกล่าวถ้อยแถลงอย่างหนักแน่น โดยชี้ว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ นั้น ยังห่างไกลจากความเป็นจริงของประเทศกำลังพัฒนา

“เราต้องการมากกว่านั้น และต้องการเร็วขึ้น” กลุ่มฯเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้ว เร่งเพิ่มจำนวนและความเร่งด่วนของการจัดหาเงินทุน และเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินอย่างน้อย สามเท่าภายในปี 2030

ในขณะที่การประชุมยังคงดำเนินต่อ เสียงเรียกร้องจากหลายประเทศยังดังก้องถึง “ช่องว่าง” ระหว่างคำสัญญากับความจริง อินเดีย ตัวแทนจากกลุ่มประเทศ BASIC เตือนว่า เงินทุนสำหรับการปรับตัวที่ควรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2025 ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่หลายประเทศชี้ว่า ความต้องการเงินทุนมีมากกว่าที่จัดสรรได้จริง ถึง 15 เท่า

ผู้แทนภูฏานเรียกร้องให้เพิ่มเงินทุนปรับตัวเป็น 3 เท่า ชี้ 1.5 องศาเซลเซียสคือเรื่องของการอยู่รอด สำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นประเทศบนภูเขาที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลและมีความเสี่ยงสูงต่อสภาพภูมิอากาศ เช่น ภูฏาน การจำกัดอุณหภูมิที่ 1.5 องศาเซลเซียส “ไม่ใช่ทางเลือกในการเจรจา แต่เป็นเรื่องของการอยู่รอด”

ในประเด็นความสูญเสียและความเสียหาย (Loss and Damage) ภูฏานเรียกร้องให้กองทุนตอบสนองความต้องการของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เปราะบางที่สุด ในลักษณะที่ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

เมื่อแผน 1.3 ล้านล้านกำลังถูกพูดถึงทั่วห้องประชุม คำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้คือ “เราจะได้รับเงินเท่าไร... และเมื่อไร?”

 

ที่มารูป: COP30 Brasil Amazônia