'ฉลากสิ่งแวดล้อม' เครื่องมือเศรษฐกิจยุคใหม่ เพิ่มธุรกิจไทยสู่เวทีโลก

ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ "ฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม" ในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจไทยให้แข่งขันได้ในตลาดโลก และเป็นกลไกหลักในการมุ่งสู่การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
KEY
POINTS
- ฉลากสิ่งแวดล้อมเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจไทยในตลาดโลก
- ฉลากเขียวของไทยเชื่อมโยงกับเครือข่ายฉลากสิ่งแวดล้อมโลก (GEN) ทำให้สินค้าไทยได้รับการยอมรับและเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
- กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างมีการใช้ฉลากสิ่งแวดล้อมเติบโตสูงสุด โดยเฉพาะในการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของภาครัฐ
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ยืนยันว่า "ฉลากสิ่งแวดล้อม" ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์รักษ์โลก แต่เป็น "เครื่องมือทางเศรษฐกิจที่จำเป็น" สำหรับภาคธุรกิจไทยในการก้าวทันกระแสการค้าโลกที่ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเป็นกุญแจสำคัญในการ สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ และ ขับเคลื่อนการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่โลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน การเลือกใช้สินค้าฉลากเขียวถือเป็นการช่วยเหลือสังคม และต้องยอมรับว่าในตลาดโลก ฉลากสิ่งแวดล้อมคือกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดสีเขียว โดยเฉพาะในกลุ่ม การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของภาครัฐ (Green Public Procurement) ที่มีมูลค่ามหาศาล
เชื่อมโยงฉลากไทยสู่สากล
ฉลากเขียวของประเทศไทยยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายฉลากสิ่งแวดล้อมโลก (Global Ecolabelling Network - GEN) ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันกว่า 15 ประเทศสมาชิก โดยล่าสุดได้ลงนามกับสิงคโปร์ ศรีลังกา และอุซเบกิสถาน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตไทยที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว สามารถขอการรับรองฉลากสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่สัญญาได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้กับสินค้าไทยในตลาดโลก
กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้างนำโด่ง
ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ชี้ให้เห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ โดยระบุว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด เนื่องจากถูกใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในสำนักงาน เครื่องใช้ภายในบ้าน ตลอดจนงานบริการ เช่น โรงแรม บริการทำความสะอาด และบริการซักรีด ที่เริ่มมีบทบาทในการใช้ฉลากสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ยกย่องผู้ประกอบการต้นแบบ
เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยได้มอบเกียรติบัตรเพื่อเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นดำเนินงานจนได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากสิ่งแวดล้อมหลายประเภท ได้แก่ ฉลากเขียว, ฉลากผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Circular Mark), ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (EPD), และ Inno-Green Station ประจำปี 2567-2568 รวมทั้งสิ้น 70 บริษัท
ฉลากสิ่งแวดล้อมได้กลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่สะท้อนความรับผิดชอบของผู้ผลิต และเป็น กุญแจสำคัญ สำหรับภาคธุรกิจในการปลดล็อกโอกาสในตลาดโลก และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง







