'กองทุนยุติธรรม' ก้าวสู่ยุคใหม่ เร่งลดขั้นตอนพร้อมบูสต์ AI ยกระดับบริการ ปิดช่องว่างกฎหมาย

กองทุนยุติธรรมเดินหน้าเต็มสูบ แถลงผลงานทศวรรษแห่งการช่วยเหลือประชาชนกว่า 6 หมื่นราย พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ปีที่ 11 มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล AI และปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้ "ความยุติธรรมเข้าถึงประชาชนได้เร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม" อย่างแท้จริง ตามแนวคิดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
KEY
POINTS
- กองทุนยุติธรรมประกาศยุทธศาสตร์ใหม่ มุ่งทำงานเชิงรุกโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มายกระดับการให้บริการประชาชน
- ปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาคำขอความช่วยเหลือ จากเดิม 45 วัน เหลือเพียง 18 วัน
- เตรียมทบทวนและปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนยุติธรรม พ.ศ. 2558 ให้มีความทันสมัย เพื่อลดอุปสรรคและปิดช่องว่างทางกฎหมาย
กองทุนยุติธรรมแถลงผลงานทศวรรษแห่งการช่วยเหลือประชาชนกว่า 6 หมื่นราย พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ปีที่ 11 มุ่งเน้นการทำงานเชิงรุก ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล AI และปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้ "ความยุติธรรมเข้าถึงประชาชนได้เร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม" อย่างแท้จริง ตามแนวคิดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมที่มุ่งเน้นการยกระดับความช่วยเหลือทางกฎหมาย คุ้มครองสิทธิมนุษยชน และสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยยึดหลักการที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว เป็นธรรม และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินควร
ผลงานทศวรรษแห่งความช่วยเหลือ (2552-ปัจจุบัน)
กองทุนยุติธรรมได้พิสูจน์บทบาทสำคัญในการเป็น "ผู้แทนความยุติธรรม" ที่เคียงข้างประชาชนในทุกมิติ ทั้งด้านการให้ความรู้ (ต้นน้ำ) การสนับสนุนการดำเนินคดีและประกันตัว (กลางน้ำ) และการเยียวยาผู้ถูกละเมิดสิทธิ (ปลายน้ำ)
- ภาพรวมความช่วยเหลือ: ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา กองทุนยุติธรรมได้รับคำขอความช่วยเหลือรวม กว่า 60,000 ราย คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือ กว่า 2,000 ล้านบาท (ข้อมูลระบุ 2.242 ล้านราย ในส่วนหนึ่งของปีงบฯ 2568 และ 2,242 ล้านบาท ในภาพรวมเดิม ซึ่งรวมเป็นกว่า 2,000 ล้านบาทตามคำกล่าวปลัดฯ)
- ความเชื่อมั่น: ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความพึงพอใจจากประชาชนผู้รับบริการสูงถึง 99.18 % ซึ่งเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่า "กองทุนยุติธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชนได้"
การบูรณาการเครือข่ายสู่การบริการไร้รอยต่อ กลไกขับเคลื่อน "สังคมยุติธรรม"
พงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์สำคัญประการที่สาม คือ การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่าย โดยมองว่าภารกิจการอำนวยความยุติธรรมเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องตั้งแต่ "ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ" ซึ่งไม่อาจสำเร็จได้โดยหน่วยงานเดียว การสร้างกลไกการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งจึงเป็นหัวใจหลักในการส่งมอบความช่วยเหลือที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูงสุดแก่ประชาชน
หลักการและความจำเป็นในการสร้างเครือข่าย
- สร้างความครบวงจร: กระบวนการยุติธรรมเริ่มต้นจากการแจ้งความ ไปสู่การดำเนินคดี การพิจารณาในศาล และการเยียวยาในภายหลัง การเชื่อมโยงข้อมูลและการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ประชาชนไม่ต้องวิ่งไปหลายหน่วยงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพ: การร่วมมือกันทำให้การส่งต่อความช่วยเหลือเป็นไปอย่างราบรื่น (Seamless) ลดความซ้ำซ้อนของขั้นตอน และลดภาระของประชาชนผู้เดือดร้อน
- ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ: การประสานงานกับเครือข่ายที่มีฐานข้อมูลและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (เช่น ด้านสังคมสงเคราะห์) ช่วยให้กองทุนฯ สามารถให้ความช่วยเหลือได้ครอบคลุมมิติทางสังคมมากขึ้น
ก้าวต่อไปปีที่ 11 ยุทธศาสตร์ J-F-O เพื่อความยุติธรรมเชิงรุก
สำหรับปีที่ 11 กองทุนยุติธรรมจะยกระดับการทำงานภายใต้แนวคิด "กองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน" โดยปรับใช้กรอบแนวคิด J-F-O เพื่อนำความยุติธรรมเข้าถึงประชาชนอย่างจริงจัง
J - Journey of Justice (เส้นทางสู่ความยุติธรรม)
- การปรับปรุงระเบียบ: ทบทวนและปรับปรุงระเบียบ หลักเกณฑ์ มาตรฐานการดำเนินงาน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ ง่ายขึ้น มากขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น
F - Fairness for All (ความเป็นธรรมสำหรับทุกคน)
- ปฏิรูปดิจิทัล: ยกระดับการให้บริการครบวงจร พัฒนาแพลตฟอร์ม MSCL (MOJ Smart Complain and Legal consult) ซึ่งเป็น One-stop service ออนไลน์ที่ใช้ AI เข้ามาช่วย ทำให้ประชาชนสามารถยื่นคำขอและติดตามสถานะได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
- ลดระยะเวลา: ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่ามีการยกระดับประสิทธิภาพการพิจารณาคำขอจากเดิม 45 วันให้เหลือเพียง 18 วัน ในปัจจุบัน และมีเป้าหมายจะลดลงอีก
O - Opportunity for Justice (สร้างโอกาสสู่ความเป็นธรรม)
- พัฒนาบุคลากร: เพิ่มอัตรากำลังและพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัลและกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อให้พร้อมให้บริการ
- ประชาสัมพันธ์เชิงรุก: ขยายการสื่อสารสู่ชุมชนผ่าน Storytelling และช่องทางสมัยใหม่ เพื่อให้ประชาชน "รู้เร็วเข้าถึง และทันเวลา"
- ปฏิรูปกฎหมาย: ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินและปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนยุติธรรม พ.ศ. 2558 ให้ทันสมัยและลดอุปสรรคในการทำงาน
การบูรณาการความร่วมมือนี้เป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและการดำเนินคดีของกองทุนยุติธรรมไม่หยุดชะงัก และสามารถส่งต่อความช่วยเหลืออื่นๆ ที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว เช่น หากมีประชาชนมาขอความช่วยเหลือด้านการดำเนินคดีและพบว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง ก็จะสามารถประสานส่งต่อให้ พม. เข้ามาดูแลด้านสังคมสงเคราะห์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นการยกระดับการให้บริการยุติธรรมให้ครอบคลุมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตามเป้าหมายที่ต้องการให้ประชาชนได้รับ ความยุติธรรมอย่างเสมอภาค







