'พายุ คัลแมกี' จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม ไทยเฝ้าระวัง เสี่ยง 'ฝน 300 มม.'

จับตา "พายุ คัลแมกี" พัฒนาเป็นไต้ฝุ่นรุนแรงขึ้นถล่มเวียดนามคืนนี้! ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ ประกาศพื้นที่เฝ้าระวัง "เฉดส้ม-เหลือง" แนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เสี่ยงฝนตกหนักสะสม 2 วันทะลุ 300 มิลลิเมตร
KEY
POINTS
- พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" เตรียมเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม และจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
- หลายจังหวัดในภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง ถูกประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงภัยฝนตกหนัก โดยคาดว่าจะมีปริมาณฝนสะสมเกิน 300 มิลลิเมตร
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อนในวันที่ 7 พ.ย.68 ตามด้วยภาคเหนือ และภาคกลางในวันถัดไป
- มีการเตือนภัยเป็นพิเศษในจังหวัดปลายน้ำ เช่น อุบลราชธานี และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำซ้อน
"พายุ คัลแมกี" พัฒนาเป็น พายุไต้ฝุ่น รุนแรง ขึ้นถล่มเวียดนามคืนนี้! ศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ ประกาศพื้นที่เฝ้าระวัง "เฉดส้ม-เหลือง" แนวตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ เสี่ยงฝนตกหนักสะสม 2 วันทะลุ 300 มิลลิเมตร ภาคอีสานตอนกลาง-ล่างรับเต็มๆ 7 พ.ย.68 ก่อนเข้าเหนือ (อุตรดิตถ์, น่าน, แพร่) และภาคกลาง ห่วง "อุบลฯ-อยุธยา" ปลายน้ำเจอท่วมซ้ำ
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลในเฟซบุ๊ก รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามและประเมิน สถานการณ์พายุ "คัลแมกี" อย่างใกล้ชิด โดยพบว่าพายุมีความรุนแรงมาก และคาดว่าจะพัฒนาขึ้นเป็น พายุไต้ฝุ่นรุนแรง ในวันพรุ่งนี้ 6 พฤศจิกายน 2568
พายุ "คัลแมกี" คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง บริเวณเมืองกวีเญิญ (จ.บิ่ญดิ่ญ) ตั้งแต่คืนวันที่ 6 พ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับหลังขึ้นฝั่ง
พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักวิกฤติ และกำหนดเวลาเฝ้าระวัง
จากการประเมินอิทธิพลพายุ ศภช. ชี้ว่า พื้นที่หลายจังหวัดในประเทศไทยที่อยู่ใน บริเวณเฉดสีเหลือง และส้ม (แนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้) จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก ฝนตกหนัก โดยคาดว่าจะมี ฝนสะสม 2 วันมากกว่า 300 มิลลิเมตร ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเกิด น้ำท่วม, น้ำล้นตลิ่ง, น้ำไหลหลาก และน้ำท่วมรอการระบาย จึงต้องมีการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนกลาง และตอนล่าง (7 พ.ย.68)
- จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหลัก: อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, อำนาจเจริญ, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, และมุกดาหาร
ภาคเหนือ (8 พ.ย.68)
- จังหวัดที่ได้รับผลกระทบหลัก: น่าน, แพร่, และ อุตรดิตถ์
ภาคกลาง (จนถึง 10 พ.ย.68)
- หลายจังหวัดจะได้รับผลกระทบต่อเนื่อง
สั่งตั้ง War Room และข้อควรระวังพิเศษ
ศภช. ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยเร่ง ตั้ง War Room เพื่อเฝ้าระวัง ติดตาม และประสานงานกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้อย่างทันเหตุการณ์
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
- ปัญหาจากปลายน้ำสู่ต้นน้ำ: จังหวัดปลายน้ำสำคัญ อย่าง อุบลราชธานี (ภาคอีสาน) และ พระนครศรีอยุธยา (ภาคกลาง) มีความเสี่ยงที่จะเกิด น้ำท่วมหลายระลอก เนื่องจากปริมาณฝนจะตกตามทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ ทำให้มวลน้ำหลากจะไหลย้อนกลับลงมาอีกครั้งในลุ่มน้ำสำคัญ เช่น ลุ่มน้ำมูล, ลุ่มน้ำชี, และลุ่มน้ำเจ้าพระยา
- เขื่อนวิกฤติ: เขื่อนหลายแห่งในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณน้ำอยู่ในระดับวิกฤติอยู่แล้ว จึงขอให้ผู้บริหารเขื่อนบริหารจัดการความเสี่ยงสูงสุดอย่างระมัดระวัง
จากการสังเกตสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่าขณะนี้มีอากาศร้อนผิดปกติ ทั้งที่ควรจะเริ่มหนาวเย็นแล้ว ซึ่งอาจส่งนัยว่ายังไม่มีความกดอากาศสูงเข้ามาช่วยสลายกำลังของพายุในเร็ววันนี้ ทำให้ความเสี่ยงยังคงสูงมาก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







