ฝนตกชุก 'คัลแมกี' กำลังมา ภัยซ้อน 2 เด้งจาก 'ลมหนาวถอย-ลานีญา'

ฝนตกชุก 'คัลแมกี' กำลังมา ภัยซ้อน 2 เด้งจาก 'ลมหนาวถอย-ลานีญา'

ปรากฏการณ์ "ลมหนาวถอยมากผิดปกติ" ผนวก "ลานีญา" เสริมกำลังพายุ เปิดประตูให้อันตรายเข้าสู่แผ่นดินลึกกว่าปกติ

KEY

POINTS

  • พายุ "คัลแมกี" กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคอีสานของไทย โดยมีความรุนแรงและเส้นทางที่ผิดปกติกว่าที่คาดการณ์
  • ความรุนแรงของพายุเกิดจาก 2 ปัจจัยซ้อนกัน คือ "ลมหนาวถอย" ที่เปิดช่องให้พายุเข้าลึก และปรากฏการณ์ "ลานีญา" ที่ช่วยเสริมกำลัง
  • พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมสูงคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะลุ่มน้ำชี-มูล และพื้นที่ท้ายเขื่อนต่างๆ
  • ภาคกลางบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา (จ.อยุธยา) จะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้งจากการเพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับพายุ

ชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีมกรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า สถานการณ์สภาพอากาศ และภัยน้ำท่วมที่ซับซ้อน และน่ากังวล โดยชี้ถึงการซ้อนทับกันของปัจจัยผิดปกติ 2 ประการที่ทำให้พายุเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงภาคกลาง

สถานการณ์ฝนถล่มล่าสุด มวลอากาศรวนทำน้ำท่วมเหนือ-กลาง

ชวลิต วิเคราะห์ว่า การเกิดฝนตกหนักผิดปกติในหลายพื้นที่เกิดจากกลไกทางอากาศที่แตกต่างกัน

  • ภาคเหนือ (เชียงใหม่-สุโขทัย): เกิดจากการ ปะทะกันโดยตรง ของมวลอากาศเย็นจากจีนกับมวลอากาศอุ่นชื้นจากทะเลอันดามัน ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง 2-3 วัน ก่อนจะคลี่คลายในวันที่ 4 พ.ย.68
  • ภาคกลาง (กทม.-ปริมณฑล): เกิดจากปรากฏการณ์ "ลมหนาวถอย" (มวลอากาศเย็นอ่อนกำลัง และถอยกลับ) ซึ่งดึง ร่องมรสุม ให้เลื่อนขึ้นจากเพชรบุรีมาพาดผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทำให้มีฝนตกหนัก 3 วันเต็ม (1-3 พ.ย.68) จากการดูดความชื้นมหาศาลจากอ่าวไทยขึ้นมา

"คัลแมกี" เส้นทางอันตราย: ภัย 2 บวก เปิดช่อง-เพิ่มกำลังพายุ

พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" (Kalmaegi) : ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 25 ของปี มีแนวโน้มความรุนแรงและเส้นทางที่ผิดปกติอย่างยิ่งความรุนแรงพายุ: คาดว่าจะทวีความรุนแรงเป็น ไต้ฝุ่นระดับ 3 ขณะขึ้นฝั่งเวียดนามในวันที่ 6 พ.ย.68 ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวเข้าสู่ไทยบริเวณ อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, ยโสธร ในวันที่ 7 พ.ย.68 และสลายตัวที่ขอนแก่นในวันที่ 8-9 พ.ย.68

ฝนตกชุก \'คัลแมกี\' กำลังมา ภัยซ้อน 2 เด้งจาก \'ลมหนาวถอย-ลานีญา\'

ปัจจัยเร่ง 2 ประการ ความผิดปกตินี้มีสาเหตุจาก "2 บวก" ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อย

  1. ลมหนาวถอยมากเกินไป: การถอยกลับของมวลอากาศเย็นจากจีนที่ทำหน้าที่เป็น "เกราะป้องกัน" ทำให้ "เปิดช่อง" ให้พายุสามารถเคลื่อนตัวลึกเข้าสู่ภาคอีสานได้ถึงขอนแก่น
  2. อิทธิพลของ "ลานีญา" เริ่มต้น: ภาวะลานีญาที่เริ่มต้นในเดือนพ.ย. ได้ "เสริมกำลัง" ลมค้า (Trade winds) ให้แรงขึ้น ทำให้พายุมีความรุนแรง และสามารถรักษากำลังไว้ได้ขณะเคลื่อนตัวเข้ามาในแผ่นดิน

พื้นที่เสี่ยงสูงสุด อีสานลุ่มน้ำชี-มูล และอยุธยาท้ายเขื่อน

อิทธิพลของ "คัลแมกี" จะส่งผลกระทบรุนแรงในสองภูมิภาคหลัก

พื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมสูง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือน้ำล้นตลิ่ง ในลุ่มน้ำชี-มูล และน้ำเต็มความจุเขื่อนตั้งแต่ 9 พ.ย.68 ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ (ขอนแก่น), ท้ายเขื่อนลำปาว (กาฬสินธุ์) และตลอดแนวลำน้ำชี (มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, อุบลราชธานี)

ภาคกลางระดับน้ำกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง จากการระบายน้ำเพิ่มของเขื่อนเจ้าพระยาท้ายเขื่อนเจ้าพระยา: อ.บางบาล, อ.เสนา, อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.โผงเผง จ.อ่างทอง

คำเตือนสำหรับภาคกลาง เขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือจากสุโขทัย และอิทธิพลพายุ ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน ซึ่งน้ำกำลังลดลง จะเผชิญกับระดับน้ำที่กลับมาสูงขึ้นอีกประมาณ 30 เซนติเมตร

ชวลิตย้ำว่า แม้พายุลูกนี้จะช่วยเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำอีสานตอนล่าง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ท้ายน้ำ และริมตลิ่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด

แม้ "คัลแมกี" จะเป็นพายุลูกที่ 25 แต่โดยปกติจะมีพายุเกิดขึ้นประมาณ 30 ลูกต่อปี ดังนั้น จึงยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดพายุลูกใหม่ๆ ตามมาอีกประมาณ 5 ลูกหากมีพายุเกิดขึ้นในช่วงปลายปี พายุเหล่านั้นมีแนวโน้มสูงที่จะเคลื่อนตัวตามร่องมรสุมที่เลื่อนต่ำลงไปสู่ ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ได้ตามฤดูกาล

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์